โรงพยาบาลตำรวจยันเพลิงไหม้ไม่กระทบบริการผู้ป่วย

โฆษกโรงพยาบาลตำรวจยืนยัน เหตุเพลิงไหม้ ไม่กระทบการบริการของโรงพยาบาลกับผู้ป่วย อีกทั้งในห้องต้นเพลิง ไม่มีเครื่องมือการแพทย์ที่สำคัญเสียหาย ส่วนสาเหตุและค่าเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

วันนี้ (3 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ รองแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ในฐานะโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ กล่าวถึงกรณีเพลิงไหม้ ชั้น 3 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษาโรงพยาบาลตำรวจ ว่า ชั้นที่ 3 ซึ่งเกิดเพลิงใหม้ไม่ได้เป็นที่พักคนไข้ และไม่ได้เป็นห้องที่เก็บอุปกรณ์สำคัญทางการแพทย์ เป็นห้องเก็บของและที่พักเจ้าหน้าที่เวร เพลิงใหม้ทำให้ห้องต้นเพลิงเสียหายเยอะ ของตกแต่งห้องไม่ว่าจะเป็นตู้ เก้าอี้ ฝ้า เพดาน พื้น ประตูเสียหาย ส่วนบริเวณรอบๆ ก็เสียหายเล็กน้อย ยืนยันว่าเหตุเพลิงไหม้ไม่กระทบกับการให้บริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาล

“วันนี้ทางโรงพยาบาลก็ให้บริการทางการแพทย์ตามปกติทุกอย่าง จากการตรวจสอบ ชั้นที่ 2 และชั้น 4 ก็พบว่า ไม่ได้รับผลกระทบยังให้บริการได้ ซึ่งจะให้ทางกองพลาธิการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาตรวจสอบอาคารอีกครั้งหนึ่งเพื่อยืนยันว่าใช้การได้ตามปกติ” รองแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ กล่าว

พล.ต.ต.นพ.จงเจตน์ กล่าวต่อว่า เมื่อคืนที่เกิดเพลิงไหม้อีกฟากหนึ่งของอาคารเป็นแผนกเด็ก เมื่อเกิดเหตุก็เคลื่อนย้ายเด็ก 7-8 คน ไปตึกอื่นซึ่งเป็นไปตามแผนที่เราเคยซักซ้อมกันไว้ พ่อแม่เด็กก็เข้าใจ วันนี้ก็ย้ายกลับมาที่เดิม ส่วนสาเหตุก็ยังไม่ทราบ เพราะห้องนั้นปกติจะเป็นห้องเปล่าๆ ไม่ค่อยมีใครอยู่อาจเป็นไปได้ว่าไฟฟ้าลัดวงจร ก็ให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานไปตรวจหาสาเหตุอยู่ เราให้ความมั่นใจได้เพราะมีการเตรียมพร้อมสามารถดับไฟได้ภายใน ครึ่งชั่วโมง ตอนเกิดเหตุรปภ. 2 คนของโรงพยาบาลพยายามเข้าไปดับไฟก่อน แต่มีควันหนาเข้าไปไม่ได้สำลักควันบาดเจ็บเล็กน้อยอยู่ระหว่างดูอาการ จึงแจ้งหน่วยดับเพลิงมาช่วยจนสามารถดับเพลิงได้อย่างทันท่วงที

“เรื่องนี้คงไม่ใช่เป็นการวางเพลิง เพราะจุดที่เกิดเหตุไม่เหมาะที่จะเป็นจุดลอบวางเพลิงส่วนมูลค่ายังไม่ได้ประเมิน แต่ไม่เยอะเพราะห้องนั้นไม่ได้มีเครื่องไม้เครื่องมืออะไรที่สำคัญ” ล.ต.ต.นพ.จงเจตน์ ยืนยัน