“พีระพันธุ์” ส่ายหน้าไม่เห็นด้วยเรียก “เฉลิม-มนูกฤต” ให้ข้อมูลไซฟ่อนเงินรั่ว

รมว.ยุติธรรม ไม่เห็นด้วยเรียก “เฉลิม-มนูกฤต” เข้าให้ข้อมูลกรณีสำนวนคดีไซฟ่อนเงินรั่ว เชื่อไม่เกิดประโยชน์ ด้านรองปลัดยุติธรรมระบุไม่จำเป็นต้องเสนอย้ายพนักงานสอบสวน

วันนี้ (1 เม.ย.) นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานสอบข้อเท็จจริงกรณีสำนวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) รั่ว กล่าวว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวไม่มีประเด็นการเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด ซึ่งในคำสั่งแต่งตั้งของนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้ทำเพียงการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าข้อมูลรั่วหรือไม่เท่านั้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของตนที่ต้องพิสูจน์ ส่วนประเด็นอื่นๆ อาจเป็นเพียงข้อเสนอแนะเรื่องวิธีการทำงานของพนักงานสอบสวน แต่ยอมรับว่ามีบุคคลบางคนมาเสนอแนะให้มีการย้ายพนักงานสอบสวน ซึ่งตนเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงตัวพนักงานสอบสวนไม่มีประโยชน์อะไร เนื่องจากการทำสำนวนคดีทุกอย่างมีการวางแนวทางการทำงานชัดเจน ไม่ว่าพนักงานสอบสวนคนไหนจะเข้ามาทำงานก็ต้องทำตามแนวทางที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรมได้ทำหนังสือไปยัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการนัดวันมาให้ข้อมูลกับคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง

ขณะที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะเป็นหน้าที่ของข้าราชการประจำ แต่ส่วนตัวเห็นว่าการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวไม่จำเป็นต้องเรียกบุคคลภายนอก เช่น ร.ต.อ.เฉลิม หรือ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร อดีตประธานวุฒิสภา มาสอบถามแต่อย่างใดการเรียกบุคคลภายนอกมาสอบถามเชื่อว่าจะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ เพราะเป็นการตรวจสอบภายในหน่วยงานของกระทรวงยุติธรรม และการทำสำนวนคดีทุกอย่างต้องมีการตรวจสอบอยู่แล้วไม่ว่าหน่วยราชการหน่วยงานใดก็ตามจะทราบเองว่าเมื่อเกิดปัญหาจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป อย่างไรก็ตาม ตนจะไม่เข้าไปสั่งการว่าต้องมีการเชิญหรือไม่เชิญบุคคลภายนอกมาให้ข้อมูลเพราะเกรงจะเป็นการก้าวก่ายการทำงานของคณะทำงาน