2 คนร้ายอ้างตัวเป็นตำรวจ ขอตรวจค้นยาเสพติด หนุ่มสาวนักศึกษาที่สายใต้ใหม่ แล้วอ้างพบยากล่อมประสาทกับกัญชา จับใส่กุญแจมือบังคับให้รับสารภาพ แล้วโทรศัพท์รีดเงินแม่เด็กได้ไป 2 หมื่นบาท ตำรวจกำลังแกะรอยจากกล้องวงจรปิดล่าตัว
วันนี้ (31 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.นายณัฐพงษ์ ภิรมย์รักษ์ อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์วิทยาศาสตร์ เอกรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชีย น.ส.ปวริศา ชัยเดช อายุ 20 นักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกัน และ นางกัลญา ภิรมย์รักษ์ อายุ 46 ปี แม่ของ นายณัฐพงษ์ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.นิกร ด้วงฉุน สว.สส.สน.ตลิ่งชัน ว่า ถูกกลุ่มมาเฟียอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ข่มขู่รีดไถเงิน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.วันที่ 18 มี.ค.2552 ภายในสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กทม.
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุพร้อมกับ น.ส.ปวริศา แฟนสาว ได้มานั่งรอขึ้นรถทัวร์ภายในสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เพื่อเดินทางกลับบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างนั้นก็มีชาย 2 คน คนแรกศีรษะล้าน รูปร่างท้วม มีรอยสักที่ต้นแขน อีกคนตัดผมรองทรงสั้น รูปร่างท้วมคล้ายกัน เดินมาหาพร้อมกับอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่ยอมบอกสังกัด ขอตรวจค้นภายในกระเป๋าเดินทาง เพราะต้องสงสัยว่าจะมียาเสพติด จากนั้นทั้ง 2 คน จึงได้ทำการตรวจค้นภายในกระเป๋าเดินทาง ก็พบยากล่อมประสาทจำนวน 50 เม็ด และกัญชาห่อเล็ก 1 ห่อ ซึ่งได้พยายามปฏิเสธว่าของกลางที่พบดังกล่าวไม่ใช่ของตน แต่บุคคลทั้ง 2 ก็ไม่ยอมฟังทั้งยังจับใส่กุญแจมือ
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นจึงได้พาตน และ น.ส.ปวริศา ขึ้นไปที่ลานจอดรถชั้นที่ 2 โซนเอ็ม 9 แล้วพาเข้าไปนั่งในรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน สษ 9013 กทม.หลังจากนั้น ก็พูดจาข่มขู่ว่าศพไม่สวยแน่ เนื่องจากไม่ยอมรับของกลางที่พบ พร้อมทั้งข่มขู่เอาเงิน ซึ่งก็ได้ท้าทายไปว่า ถ้าแน่จริงก็พาเข้าไปโรงพัก อย่างพามานั่งแบบนี้ ระหว่างนั้นทั้ง 2 คน ได้หยิบโทรศัพท์มือถือของตนแล้วโทร.ไปหาแม่ตน พูดคุยว่าตนเมาไม่ได้สติ และตรวจค้นในกระเป๋าก็พบยากล่อมประสาท หลังจากนั้น ก็พยายามต่อรองกับแม่ตน เพื่อต้องการเงิน แต่ก็ให้แม่ตนเสนอมาว่าจะจ่ายให้เท่าไร ซึ่งก็ได้พูดคุยกันอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง
“หลังจากวางสายจากแม่ผม ชายทั้ง 2 คน ก็ให้ น.ส.ปวริศา ออกไปกดเงินจากบัญชีธนาคารของผมมา จำนวน 20,000 บาท โดยให้ผมนั่งอยู่ในรถ เพราะทางแม่ผมโอนเข้าบัญชีมาให้แล้ว เมื่อได้เงินสดมาทั้ง 2 คน จึงปล่อยตัวผมกับ น.ส. ปวริศา เวลาประมาณ 22.00 น.เพื่อกลับบ้าน หลังจากนั้น จึงได้ปรึกษากันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นจนกระทั่งเข้าแจ้งความดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบภาพวงจรปิดภายในลานจอดรถ และบริเวณสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ รวมทั้งเชิญตัวพยานในที่เกิดเหตุ และพยานแวดล้อมมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
