ศาลสั่งจำคุกหนุ่มหื่นกามรุมโทรมเด็กหญิง 13 ปี ตลอดชีวิต หลังร่วมก่อเหตุกับพวกรวม 5 คน ชี้จำเลยกระทำผิดตามฟ้องรับโทษหนักสุดจำคุกตลอดชีวิต แต่ให้การรับสารภาพลดโทษให้เหลือหนึ่งในสามคงจำคุก 33 ปี 4 เดือน
วันนี้ (27 มี.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 903 ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.3905/2550 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายไกรสร รัตนคช อายุ 29 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดโดยใช้กำลังประทุษร้าย, ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบห้าปีโดยหญิงนั้นไม่ยินยอม อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง
โจทก์ฟ้องและนำสืบว่า เมื่อวันที่ 22 ส.ค.48 เวลากลางคืน จำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้นำตัวมาฟ้อง ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ด.ญ.เอ อายุ 13 ปี (นามสมมติ) และ ด.ญ.บี อายุ 13 ปี (นามสมมติ) ผู้เสียหายที่ 1 และ 2 ให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย โดยใช้กำลังประทุษร้ายและบังคับให้ผู้เสียหายทั้งสองไปที่พักย่านดินแดง กรุงเทพฯ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย โดยจำเลยกับพวกรวม 5 คน ได้บังอาจข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.เอ ผู้เสียหายที่ 1 โดยผู้เสียหายที่ 1 ไม่ยินยอม และอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยจำเลยกับพวกร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายที่ 1 อันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิง เหตุเกิดที่แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 90, 91, 277, 309, 310, 391 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2526 มาตรา 4
ศาลพิเคราะห์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว เห็นว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง พิพากษาว่า ให้ลงโทษจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรค 3 อันเป็นบทหนักสุด ฐานข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา เห็นควรลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยไว้เป็นเวลา 33 ปี 4 เดือน