xs
xsm
sm
md
lg

นรกอ้าแขนรับ! รวบคนร้ายฉกจีวร-สบงพระตามวัด เร่ขายร้านสังฆภัณฑ์!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตำรวจเตาปูนตามแกะรอยและจับกุม 2 คนร้าย ตระเวนฉกผ้าไตรจีวร สบง อังสะ พระสงฆ์ตามวัดวาอารามต่างๆทั่วกรุง อ้างแค่รับซื้อไปขาย แต่ก่อนถูกจับกุม เข้าไปฉกผ้าไตรพระที่วัดแก้วฟ้าฯ ถึง 12 ไตร ตำรวจตามไปค้นบ้านพบของกลางล้วนเป็นอัฏฐบริขารเพียบ

วันนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่สน.เตาปูน พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ พ.ต.อ.พีระพงษ์ วงศ์สมาน รองผบก.น.2 พ.ต.อ.วีระ จิรวีระ ผกก.สน.เตาปูน พ.ต.ต.นพคุณ ไพเราะ สว.สส. พร้อมฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงการจับกุมนายบุญจันทร์ หรือแดง ขุมทรัพย์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 14 อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด และนายธวัชชัย หรือเนตร ชำนาญ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/2 หมู่ 2 ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 818/2552 ลงวันที่ 24 มี.ค.52 และหมายจับเลขที่ 651/2552 ลงวันที่ 11 มี.ค.52 ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน พร้อมของกลาง สบง 7 ผืน จีวร 12 ผืน อังสะ 87 ตัว บาตร 2 ใบ เทียน 2 เล่ม ขันน้ำมนต์สีเงิน 2 ใบ สีทอง 1 ใบ พานสีเงิน 1 ใบ ทัพพีสีเงิน 1 ใบ อังสะกันหนาว 1 ตัว ประคตเอว 31 เส้น และอาสนะ 10 ผืน

พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา ช่วงเวลา 13.00-14.00 น.มีคนร้ายเข้าไปลักผ้าไตรในวัดแก้วฟ้าจุฬามณี ถนนทหาร แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. จากนั้นพากันหลบหนีไป ซึ่งหลังเกิดเหตุ ทางวัดได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ระบุว่ามีรถกระบะคันหนึ่งขับพาคนร้ายเข้าไปในวัด ทางเจ้าหน้าที่จึงออกสกัดจับ จนกระทั่งพบรถกระบะคันดังกล่าว และสามารถจับกุมได้ จึงควบคุมตัวคนขับมาสอบปากคำ

ผบก.น.2 กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น คนขับรถคันดังกล่าวให้การเพียงว่ากลุ่มคนร้ายได้ว่าจ้างให้ขับรถไปตามวัดต่างๆ หลายครั้งแล้ว และทุกครั้งจะให้รอรับกลับด้วย แต่ในวันเกิดเหตุ ได้ว่าจ้างให้ไปส่งที่วัดแก้วฟ้าจุฬามณี และสั่งให้กลับได้เลย ส่วนกลุ่มคนร้ายได้เรียกรถแท็กซี่ขึ้นรถออกจากวัดไป หลังจากทราบความทั้งหมด ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน และติดตามจับกุมได้ที่ชุมชนใต้ทางรถไฟตลิ่งชัน ถนนบรมราชชนนี แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม. โดยเมื่อเข้าตรวจค้นในห้องพักของผู้ต้องหา ก็พบของกลางทั้งหมดดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนคุมตัวมาสอบปากคำ

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยนายบุญจันทร์รับว่า ก่อนหน้านี้เป็นพ่อค่าขายก๋วยเตี๋ยว และเพิ่งมาเปลี่ยนอาชีพ รับซื้อจีวร และผ้าไตรตามวัดต่างๆได้ประมาณ 1 ปีแล้ว โดยหากเป็นเป็นผ้าไตรทั้งชุด ซึ่งตามร้านสังฆภัณฑ์ทั่วไปจะขายในราคาประมาณชุดละ 1,000 กว่าบาท ในขณะที่ตนซื้อมาจากพระในราคา 250 บาท และนำไปขายต่อในราคา 300 บาท นอกจากนี้ยังรับซื้อจีวรมือสองในราคาผืนละ 5 บาท และนำไปขายต่อในราคาผืนละ 8-10 บาท โดยรับซื้อผ้าไตรจีวรในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายวัด เพราะพระแต่ละวัดล้วนขายผ้าไตรหาเงินกันทั้งนั้น

“ในวันเกิดเหตุที่วัดแก้วฟ้า ผมว่าจ้างรถกระบะไปกับพวกรวม 3 คน อีกคนคือนายวุฒินันท์ เกษมสุข อายุ 20 ปี เมื่อไปถึงวัด ก็ตรงไปที่กุฏิหลวงพ่อ จากนั้นได้ตะโกนเรียก แต่ไม่มีใครอยู่ และด้วยความโลภ เห็นผ้าไตรใหม่ จึงขโมยเอามาทั้งหมด 12 ไตร ต่อจากนั้นก็นั่งรถแท็กซี่นำผ้าไตรไปขายต่อ ที่ร้านสังฆภัณฑ์ย่านวัดเสมียนนารี ได้เงินมาแบ่งกันคนละประมาณ 700-800 บาท และเพิ่งหันมาขโมยผ้าไตรครั้งแรก” นายบุญจันทร์รับสารภาพ

พล.ต.ต.สาโรจน์กล่าวว่า ในเบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา เนื่องจาก คนขับรถกระบะได้ให้การไว้ว่า ได้รับการว่าจ้างจากกลุ่มคนร้ายไปตามวัดต่าง ๆมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งหากวัดไหนถูกกลุ่มคนร้ายไปขโมยผ้าไตร ให้ไปดูตัวคนร้ายได้ที่ สน.เตาปูน ส่วนคนร้ายตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน และจะติดตามคนร้ายอีกคนที่ยังหลบหนีอยู่มาดำเนินคดีต่อไป
ตำรวจนำตัวนายบุญจันทร์ ขุมทรัพย์ กับนายธวัชชัย ชำนาญ มาแถลงข่าวพร้อมของกลางที่ลักมาจากวัดเป็นจำนวนมาก
นายวุฒินันท์ เกษมสุข ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี
กำลังโหลดความคิดเห็น