ไฟไหม้ชุมชนมัสยิดสวนพลู วอดไปกว่า 10 หลัง ประชาชนเก็บข้าวของหนีตายอลหม่าน โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ระดมกำลังฉีดน้ำนานกว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สามารถตรวจสอบหาบ้านต้นเพลิงได้
วันนี้ (24 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.45 ร.ต.ท.รัชพล นุริตมนต์ ร้อยเวร สน.บางยี่เรือ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนภายในชุมชนมัสยิดสวนพลู (สวนหลวง) ถนนเทอดไทย (ซอย19) แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนประสานรถดับเพลิงจากหน่วยบรรเทาสาธารณภัย กว่า 50 คันรุดไประงับเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นชุมชนแออัด มีบ้านไม้ปลูกติดกันจำนวนหลายหลัง ส่วนจุดเกิดเหตุเป็นบ้านเช่าครึ่งตึกครึ่งไม้ ซึ่งปลูกเรียงแถวกันกว่า 100 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่พบกลุ่มควันและแสงเพลิงพวยพุ่งเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าวต่างตกใจเก็บข้าวของและอุ้มสัตว์เลี้ยงพากันหนีตายอย่างอลหม่าน ขณะที่การทำงานของหน่วยดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากพื้นที่เป็นซอยคับแคบรถดับเพลิงเข้าไม่ถึง ต้องใช้เครื่องสูบน้ำแบบหาบหามเข้าไปเสาะหาแหล่งน้ำและใช้วิธีลำเลียงสายส่งน้ำเข้าไปไกลกว่า 500 เมตร จึงจะสามารถวางหัวฉีดล้อมเพลิงเอาไว้ได้ทุกด้าน โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง กว่าเพลิงจะสงบ
จากการตรวจสอบพบว่า มีบ้านเรือนถูกเพลิงเผาไหม้ไปทั้งสิ้นประมาณ 10 หลังคาเรือน แบ่งเป็นห้องเช่า รวมทั้งสิ้นกว่า 40 ห้อง โชคดีที่ในจุดเกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ทรัพย์สินของประชาชนที่ได้รับความเสียหายนั้นมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ จึงต้องรอเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบหาหลักฐานกันอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบถาม นางจิตร ฝังนิล อายุ 52 ปี ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนออกจากบ้านไปซื้อกับข้าวที่ตลาดริมทางรถไฟ จากนั้นก็ได้ยินเสียงรถดับเพลิงแล่นผ่านมาจำนวนหลายคัน พอมองบนท้องฟ้าก็เห็นกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งอยู่เต็มไปหมดควันจึงรีบวิ่งเข้าไปเก็บทรัพย์สินในบ้าน ได้กางเกงยีนส์สีขาวของลูกชาย มา 1 ตัว เนื่องจากไฟไหม้อย่างรวดเร็วไม่สามารถเอาทรัพย์สินอย่างอื่นออกมาได้ ส่วนทรัพย์สินที่เสียหายไปมีมูลค่าร่วม 100,000 บาท
ด้าน ร.ต.ท.รัชพล กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุบ้านต้นเพลิงและสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ได้ ต้องรอผลตรวจสอบอย่างละเอียดของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเสียก่อน ซึ่งตนจะเรียกประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ไปสอบปากคำอีกครั้ง หากพบว่า เจ้าของบ้านต้นเพลิงหลังใดเผลอเรอหรือประมาท เช่น หุงหาอาหารทิ้งไว้จนเพลิงลุกลามก็จะถูกดำเนินคดีกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายต่อไป
มีรายงานว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตธนบุรีได้เดินทางมาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับตั้งเต็นท์ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอัคคีภัย รวมทั้งได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไว้คอยช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานอื่นๆ อาทิ กรมป้องกันภัย และสภากาชาดไทยที่กำลังเดินทางมาให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้อีกด้วย
