รมว.ยุติธรรม มีคำสั่งให้ ป.ป.ท.-ดีเอสไอ-ปปง.ร่วมตรวจสอบ กบข.ได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องออกคำสั่งพิเศษ แต่หน่วยงานนอกสังกัดให้ประสานอย่างไม่เป็นทางการไปก่อน พร้อมตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนหาข้อมูล
วันนี้ (23 มี.ค.) เวลา 20.00 น.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยภายหลังร่วมหารือกับ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม และ นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อหารือขอบเขตอำนาจการเข้าไปตรวจสอบการบริหารงานของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ทำให้สมาชิกขาดทุนจำนวนมาก ว่า ผลการหารือแบ่งออกเป็น 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.กรณีที่ กบข.มีความเห็นให้ ป.ป.ท.เข้าร่วมในการตรวจสอบการบริหารงานของ กบข.ผลการหารือเห็นควรให้ ป.ป.ท.เข้าร่วมแต่ให้เป็นในลักษณะผู้สังเกตการณ์
2.กรณีการให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าร่วมในการสอบสวน รมว.ยุติธรรม มีความเห็นให้ทั้ง 3 หน่วยงานทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นการประสานการทำงานกันตามปกติ ไม่จำเป็นต้องออกเป็นคำสั่งพิเศษ เนื่องจากทั้ง 3 หน่วยงานเป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงยุติธรรมต้องประสานการทำงานกันตามปกติอยู่แล้ว 3.ผลการหารือยันได้ยืนยันอำนาจหน้าที่ที่ ป.ป.ท.สามารถเข้าไปตรวจสอบ กบข.ได้และให้ดำเนินการต่อไป 4.ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.) เป็นต้นไป ป.ป.ท.จะตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเพื่อให้สมาชิก กบข.แจ้งเบาะแส ข้อมูลรวมทั้งรายละเอียดต่างๆ ให้ ป.ป.ท.เพื่อใช้เป็นข้อมูลการสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
นายธาริต กล่าวอีกว่า การตรวจสอบการทำงานของ กบข.เพื่อต้องการให้ความจริงปรากฏ ไม่ได้กล่าวหาว่า กบข.กระทำความผิดแล้วแต่อย่างใด ส่วนการให้หน่วยงานนอกสังกัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมตรวจสอบนั้น ผลการหารือเห็นควรให้ ป.ป.ท.เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงระยะหนึ่งก่อน แต่ในระหว่างนี้สามารถประสานขอความร่วมมืออย่างไม่เป็นทางการได้