ตลาดคลองเตยปะทุเดือดอีก คนร้ายกระหน่ำยิง 2 ลูกจ้างโรงน้ำแข็งในตลาดคลองเตยดับคาถนนหน้าแผงขายของ เชื่อฝีมือลูกน้อง บ.ลีเกิ้ล เหตุสัมปทานตลาดจากการท่าเรือ พ่อค้าแม่ค้าฮือไม่ยอมให้เก็บศพ สุดท้าย “วิบูลย์” เจรจาสำเร็จ พร้อมนัดแต่งดำแห่ศพร้องนายกฯ ขอความเป็นธรรม พร้อมประนามตำรวจท่าเรือบ้อท่า เข้าข้าง บ.ลีเกิ้ล ไม่ยอมให้เข้าพื้นที่ รอง ผบช.น.ต้องสั่ง ปจ.บก.น.5 เข้าดูแลแทน
วันนี้ (18 มี.ค.) เมื่อเวลา 19.10 น. พ.ต.ท.ยรรยง สุวรรณสะอาด พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ท่าเรือ รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย บริเวณตลาดค้าไก่ ภายในตลาดสดคลองเตย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นและรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม่ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.5 แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญูที่เกิดเหตุบริเวณทางเท้าหน้าแผงค้าที่ 21-22 เจ้าหน้าที่พบศพ นายสุขสันต์ สีหาเลิศ อายุ 36 ปี ลูกจ้างโรงน้ำแข็งภายในตลาดสด สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าไหปลาร้าซ้าย 1 นัด ใกล้กันพบศพนายกนก สุขแก้ว อายุ 32 ปี ลูกจ้างโรงน้ำแข็งเดียวกัน สภาพนอนหงายสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าที่ลิ้นปี่ 1 นัด นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.อีก 3 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ยังทราบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บถุกนำตัวส่งโรงพยาบาลทราบชื่อ นายสมศักดิ์ ก้านอินทร์ อายุ 35 ปี เพื่อนคนงานในกลุ่มผู้ตายถูกตีศีรษะแตก ถูกนำส่งรักษาตัวที่ รพ.จุฬาฯ และ น.ส.รจรินทร์ หล่มจิต อายุ 27 ปี ประชาชนที่มาซื้อของในตลาดถูกกระสุนลูกหลงเข้าที่แขนขวา เจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งรักษาตัวที่ รพ.กล้วยน้ำไท นอกจากนี้ยังทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ ยังควบคุมตัวผุ้ต้องสงสัยจำนวน 7 คนไปสอบปากคำที่ สน.ท่าเรือ และทำการตรวจพาราฟินเทสต์ เพื่อหาเขม่าดินปืน และตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารโหดครั้งนี้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุมีกลุ่มผู้ค้าตลาดคลองเตย เข้ามามุงดูจำนวนมาก โดยต่างช่วยกันตะโกนด่าทอ และไม่ยินยอมให้ตำรวจ สน.ท่าเรือ เข้าปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากไม่พอใจที่ไม่เข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยให้กลุ่มผู้ค้าหลังมีปัญหากระทบกระทั่งกับพนักงานของบริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟรสชันแนล จำกัด ผู้ได้รับสัมปทานบริหารตลาดคลองเตยรายใหม่ โดยยินยอมให้เพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.5 แพทย์ และเจ้าหน้าที่ พฐ.เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และยืนยันไม่ยอมให้ทำการเคลื่อนย้ายศพผู้ตายจนกว่าจะจับกุมคนร้ายได้เนื่องจากผู้ค้าส่วนใหญ่เชื่อว่ามือปืนที่ก่อเหตุน่าจะเป็นพนักงานของ บริษัทลีเกิ้ลฯ คู่กรณีที่ตั้งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุเพียง 100 เมตร ก่อนจะยินยอมให้ย้ายศพไปทำการชันสูตรโดยละเอียดที่ รพ.จุฬาฯ หลัง พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้รอง ผบช.น.เป็นตัวกลางข้าเจรจา
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ค้ายังขอตรวจสอบผู้สื่อข่าวที่เข้ามาสอบถามข้อมูลเนื่องจากเกรงจะมีพนักงานจากบริษัทลีเกิ้ลฯ คู่กรณีแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุซ้ำ อีกทั้งกล่าวหาว่าแม้จะมีการมาทำข่าว แต่ก็ไม่มีการนำเสนอข่าวเนื่องจากถูกอิทธิพลของบริษัทลีเกิ้ลฯ กดดัน และมีการนัดรวมพลจะสวมชุดดำแห่ศพประท้วงขอความเป็นธรรมต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 19 มี.ค.ด้วย
จากการสอบถามกลุ่มผู้ค้าประมวลเหตุการณ์ได้ว่า ก่อนเกิดขณะที่กลุ่มผู้ตายกำลังนั่งดื่มสุรากันอยู่ภายในซอยห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตรปรากฏว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งคาดว่าเป็นพนักงานของบริษัท ลีเกิ้ล เดินเข้ามาก่อนจะเกิดมีปากเสียงกัน หลังจากนั้นเห็นผู้ตายทั้งสองพยายามวิ่งหนีแต่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ตามออกมาจ่อยิงจนเสียชีวิต นอกจากนี้กระสุนลูกหลงยังพลาดไปโดนคนที่เข้ามาเดินซื้อของในตลาดได้รับบาดเจ็บด้วย ส่วนนายสมศักดิ์ ก็ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์เดียวกันตีเข้าที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บด้วย
พล.ต.ต.วิบูลย์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นพบว่ามีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุพอดี ซึ่งจะได้ทำการตรวจสอบว่าบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้หรือไม่ โดยเบื้องต้นตนได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สมบัติ ผกก.สส.น.5 ตรวจสอบพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ เพื่อสืบสวนติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังสั่งการให้ ชุดปราบจลาจลของ บก.น.5 เข้าตรึงกำลังบริเวณที่เกิดเหตุ เนื่องจากเกรงว่าจะมีการก่อเหตุซ้ำ หรือการกระทบกระทั่งกันของกลุ่มผู้ค้ากับพนักงานของบริษัทลีเกิ้ลฯอีก
ด้าน พล.ต.ต.โชคชัย กล่าวว่า เบื้องต้นการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความลำบากเนื่องจากกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ไม่ยอมที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเกรงว่าจะไม่รับความปลอดภัย อีกทั้งไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ เพราะกลุ่มพ่อค้าแม้ค้าอ้างว่าแม้จะมีการแจ้งความ แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่กลับมีการเข้าข้าง บ.ลีเกิ้ล ซึ่งส่วนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดคลองเตยเป็นพื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย มีบริษัทที่ได้สัมปทาน ให้เข้าจัดสรรพื้นที่ จนพื้นที่ดังกล่าวหมดสัญญา และมีบริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟรสชันแนล จำกัด ได้เข้ามาถือสัญญาใหม่ แต่ถูกกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเดิม ประท้วงเนื่องจากเห็นว่าการประมูลไม่โปร่งใส และตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน พ.ศ.2535 หากมูลค่าโครงการที่มีการลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาทจะต้องนำเรื่องเข้าพิจารณาในคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่การท่าเรือฯ กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ และยังมีการขับไล่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารายเดิม
ต่อมามีชายฉกรรจ์กว่า 200 คน ถือหนังสือรับมอบอำนาจบริษัทที่ได้รับสัมปทานเข้ามาข่มขู่และขับไล่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดคลองเตย เข้ายึดพื้นที่แสดงพฤติกรรมคุกคามและทำร้ายร่างกายแม่ค้าในตลาด จนต้องมีการแจ้งความไว้ที่ สน.ท่าเรือ แต่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าก็ยังไม่ยอมย้ายออก และมีการร้องเรียนหน่วยงานต่างๆ จนกระทั่งมีเหตุการณ์ลุกลามถึงขั้นมีการปาระเบิดใส่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ตั้งเต็นท์ประท้วงจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และยังมีการฟ้องร้องเป็นคดีอยู่ในชั้นศาล กระทั่งมาเกิดเหตุยิงกันอีกครั้งดังกล่าว