บิ๊กตร.ถกกันยาวโครงสร้างใหม่ ตร. หลังคณะทำงานชุด “วัชรพล” เสนอเพิ่ม 5 บช. 46 บก. ขณะที่ “พัชรวาท” เผยบิ๊ก ตร.ติงแหลก ติดเบรกตั้ง บช.จราจรและขนส่ง เหตุไม่เหมาะ
วันนี้ (13 มี.ค.) ที่ห้องประชุม 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างใหม่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ตามที่คณะทำงานปรับปรุงโครงสร้าง ตร. ชุด พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร.บร.พิจารณาเสนอขึ้นมา โดยมีรอง ผบ.ตร. จเรตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าร่วมประชุม ใช้เวลานานร่วม 4 ชั่วโมง
ทั้งนี้ สำหรับโครงสร้าง ตร.ฉบับที่คณะทำงานฯนำเสนอในที่ประชุมนั้นมีการปรับเพิ่มกองบัญชาการ (บช.) ใหม่เข้าไป อีก 5 บช.และเพิ่ม 46 กองบังคับการ (บก.) ทำให้จากเดิมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีอยู่ 26 บช.181 บก. เพิ่มเป็น 31 บช. กับอีก 277 บก.
นอกจากนี้ โครงสร้าง ตร.ฉบับใหม่ได้จัดกลุ่มหน่วยงานใน ตร.ออกเป็น 6 ส่วน โดยส่วนที่ 1 ส่วนบังคับบัญชา ประกอบด้วย สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ สำนักงานจเรตำรวจ และสำนักงานตรวจสอบภายใน โดยมีการเพิ่มกองบัญชาการใหม่ที่เกิดจากการจัดกลุ่ม บก.ที่มีอยู่เดิม ตั้งเป็นระดับบช. อีก 4 บช.คือ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานกำลังพล และสำนักงานงบประมาณและการเงิน
ส่วนที่ 2 คือ ส่วนปฏิบัติการเฉพาะทาง ที่ประกอบด้วยสำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ ส่วนที่3 คือ ส่วนป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ประกอบด้วย กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองบัญชาการตำรวจภูธร 1-9 และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.)
ส่วนที่ 4 คือ ส่วนสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งประกอบด้วยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจที่เปลี่ยนชื่อมาจากสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกำหนด บช.ใหม่ คือ กองบัญชาการตำรวจจราจรและขนส่ง ซึ่งมีการดึงกองบังคับการตำรวจจราจร จาก บช.น. กองบังคับการตำรวจทางหลวง และกองบังคับการตำรวจรถไฟจากบช.ก.มารวมกันตั้งเป็นบช.แห่งใหม่
ส่วนที่ 5 คือ ส่วนการศึกษา ซึ่งมีกองบัญชาการศึกษา และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และส่วนที่ 6 คือ ส่วนบริการ ซึ่งมีโรงพยาบาลตำรวจ
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมก็ได้ข้อสรุปในภาพรวม ของโครงสร้างใหม่ตร. ที่คณะทำงานฯเสนอขึ้นมา โดยมีการพิจารณาให้ความเห็นในหลายประเด็น ผู้บังคับบัญชาระดับตร.ให้ข้อสังเกตเยอะ และให้คณะทำงานไปปรับอีกครั้ง ซึ่งภาพรวมทั้งหมดจะมีบช.ใหม่ประมาณ 4-5 บช. ดูแล้วน่าจะดีขึ้น เพราะรูปแบบของโครงสร้างยังเป็นส่วนปฏิบัติ เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติถึง 76 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอื่นๆอย่างเช่นส่วนอำนวยการ ส่วนสนับสนุนก็แยกแยะกันออกไป ทั้งนี้ถือว่าพอเหมาะ
“มีรายละเอียดเล็กน้อยที่ต้องปรับ โดยติงกันว่าการตั้งบกองบัญชาการตำรวจจราจรและการขนส่ง ในส่วนสนับสนุนฯ ซึ่งมองว่างานจราจรเป็นงานหลักที่ต้องดูเส้นทางจราจร ยังควรต้องอยู่ในบช.น. ในโรงพัก ไม่ควรแยกออกมา เช่นเดียวกับตำรวจทางหลวง ที่ดูงานปราบปรามอาชญากรรมด้วย ไม่ใช่จราจรอย่างเดียวไปรวมกันก็ไม่มีประโยชน์ ควรให้ไว้อย่างเดิม ในตอนนี้น่าจะไม่มีการเพิ่ม บช.นี้ขึ้นมาใหม่ ตามที่มีการให้ข้อสังเกต” ผบ.ตร.กล่าว
ผบ.ตร.ยังกล่าวถึงการแต่งตั้งที่ปรึกษา (สบ 10) ในตำแหน่งที่เปิดขึ้นใหม่ว่า ต่อไปก็ต้องตั้งตัวคน แต่ยังไม่กำหนดว่าเมื่อไหร่จึงจะแต่งตั้ง แต่ตอนนี้มองว่าค้างคาอยู่ ตนว่าถ้าทำให้เรียบร้อยก็จะได้เดินหน้าทำงานได้เต็มที่ ซึ่งจะไม่มีการแต่งตั้งถึงระดับผู้บังคับการเพราะทำหมดแล้ว ค้างอยู่เพียงตำแหน่งระดับบนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากถึงวาระแต่งตั้งก็ต้องนำเข้าสู่คณะกรรมการกลั่นกรองพิจาณาก่อนนำเข้า ก.ตร.ตามปกติ