“ดีเอสไอ” เร่งคดีบุกรุกป่าสงวนแม่ระกา เตรียมเรียกภรรยาอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เข้าให้ปากคำหลังอ้างซื้อที่ดินมาจากการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี พร้อมส่งท่อนไม้ที่กรมป่าไม้ยึดได้ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบวงปีของไม้แต่ละท่อนตรงกับตอไม้ที่ถูกตัดในป่าสงวนหรือไม่ มั่นใจมีหลักฐานแน่นหนาเอาผิดผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีได้
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติแม่ระกา อ.โกสัมพี จ.กำแพงเพชร พื้นที่ 253 ไร่ว่า ภายในสัปดาห์หน้าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะเดินทางไปรับสำนวนคดีการบุกรุกป่าสงวนแม่ระกา กับทางตำรวจ สภ.โกสัมพีนคร เมื่อได้สำนวนแล้วพนักงานสอบสวนก็จะลงพื้นที่ป่าสงวนแม่ระกา เพื่อตรวจสอบความเสียหายจากการแผ้วถางป่าในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการคดีพิเศษจะทำหนังสือไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ฐานะประธาน คกพ.ให้ตั้งพนักงานสอบสวนจาก สภ.โกสัมพีนคร และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่เข้ามาร่วมเป็นพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ
นายสรรเสริญกล่าวอีกว่า ในส่วนของการตรวจสอบเรื่องการตัดไม้ ดีเอสไอจะนำท่อนไม้ที่กรมป่าไม้ตรวจยึดไว้ได้จากป่าแห่งนี้ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบวงปีของไม้แต่ละท่อนว่าตรงกับตอไม้ที่ถูกตัดในพื้นที่ป่าสงวนแม่ระกาหรือไม่ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อผู้ที่บุกรุก และมั่นใจว่าคดีนี้ดีเอสไอมีหลักฐานแน่นหนาสามารถที่จะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุกได้แน่นอน
ส่วน พ.ต.อ.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีต ส.ส.กำแพงเพชร อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดี ที่อ้างว่าภรรยาซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี ทางดีเอสไอก็จะเชิญตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการครอบครองสิทธิในที่ดินผืนนี้
อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอจะเรียกภรรยาผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมในรายละเอียดดังกล่าวต่อไป