ตร.เตรียมออกหมายจับ 2 “ม็อบแดงถ่อย” รุมตื้บทหารน่วมพรุ่งนี้ หลังได้ภาพผู้ต้องหาอีก 1 ราย ส่วนคดีพันธมิตรฯ ปิดสนามบิน “ตานวย” คุย คืบไป 80-90 เปอร์เซ็นต์ สั่งพนักงานสอบเพิ่มคำสั่งศาลปกครองเข้าสำนวน ก่อนพิจารณาเรื่องข้อหาความผิด
วันนี้ (3 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กล่าวภายหลังการประชุมพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง สน.ลาดกระบัง สน.ร่มเกล้า เพื่อเร่งรัดสำนวนการชุมนุมในพื้นที่รับผิดชอบว่า ส่วนของสนามบินดอนเมืองที่ถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกยึดนั้นจะเร่งทำสำนวนคดีให้มีความสมบูรณ์เพื่อไปรวมกับคดีของสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะจะมีการรวมเป็นคดีเดียวกัน โดยมี พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ซึ่งในส่วนพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ดอนเมืองนั้นสามารถสรุปคดีได้แล้วประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการประชุมวันนี้ ตนก็จะมีการเพิ่มเติ่มในส่วนของคำสั่งของศาลปกครองกลาง ซึ่งศาลปกครองกลางเคยมีคำสั่งในเรื่องของการชุมนุมประท้วงไว้เป็นบรรทัดฐานแล้ว เอามาเข้าสำนวนและจะดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อลงลึกในรายละเอียด และเมื่อครบทำสำนวนครบเรียบร้อยทั้งของสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิแล้วก็จะมีการพิจารณาในเรื่องของข้อหาความผิด
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า ส่วนการดำเนินการขออนุมัติหมายจับกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่ทำร้ายทหาร นั้น ขณะนี้ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ว่าได้ภาพถ่ายของผู้ต้องหาเพิ่มอีก 1 ราย และจะนำภาพที่ได้ไปให้ผู้เสียหายชี้ภาพก่อนว่าใช่คนที่รุมทำร้ายหรือไม่ และหากว่าใช่ก็จะดำเนินการขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติมในคราวเดียวกัน ในวันพรุ่งนี้ รวมเป็น 2 ราย เนื่องจากร่วมกันกระทำผิดในคราวเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานที่ผ่านมา (2 มี.ค.) พล.ต.ต.อำนวย ได้ให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวเรื่องการออกหมายจับกลุ่มเสื้อแดงที่มีการทำร้ายทหาร ว่าได้ให้ผู้เสียหายดูภาพถ่ายและยืนยันแล้ว โดยย้ำว่า วันนี้จะสามารถดำเนินการขออนุมัติขอหมายจับและดำเนินการตามกฎหมายได้ แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นการออกหมายจับในวันนี้ พล.ต.ต.อำนวย กลับบอกว่าเนื่องจากมีผู้ต้องสงสัยเพิ่มอีก 1 ราย จึงต้องรอเสนออนุมัติหมายจับพร้อมกับในวันพรุ่งนี้
พล.ต.ต.อำนวย ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีแก๊งทวงหนี้โหดรุมทำร้ายแม่ค้าข้าวแกงนั้น เบื้องต้นมีการจับกุมผู้ต้องหาแล้วจำนวน 4 ราย และยังมีการสอบสวนขยานผลต่อไป ส่วนกรณีของ ร.ต.ต.ที่ถูกอ้างถึงนั้น เบื้องต้นจากรายงานการสอบสวนทราบว่าขณะเกิดเหตุ และก่อนเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่หลังเกิดเหตุได้พยายามมาเจรจาเพื่อให้ขอยอมความกัน จึงได้มีการสั่งสอบเพิ่มเติมว่าในการเจรจายอมความนั้นมีการบังคับข่มขู่หรือไม่ เพราะหากทำเช่นนั้นถือว่ามีความผิดอย่างชัดเจน แต่หากเป็นการขอร้องประณีประนอม ต้องดูในรายละเอียดก่อนหากไม่ผิดทางอาญาก็จะดูในทางวินัยต่อ ซึ่งความผิดทางวันัยนั้น ทางต้นสังกัดคือ บก.น.3 อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน ซึ่งส่วนนี้เชื่อว่าหากไม่โดนอาญา ก็ต้องโดนวินัย หรือไม่ก็ต้องโดนทั้ง 2 อย่าง