xs
xsm
sm
md
lg

กรมศุลจับสิบล้อลอบขนตัวนิ่มเข้ากรุง เตรียมส่งนายหน้าเชือด!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายราฆพ ผอ.สำนักสืบสวนปราบปราม กรมศุลกากร นำตัวนิ่มที่ยึดได้มาแถลงข่าว
กรมศุลฯ แถลงจับกุมรถบรรทุกสิบล้อลักลอบตัวนิ่ม จำนวน 200 ตัว มูลค่า 1 ล้านบาท เข้าในราชอาณาจักร หลังตั้งด่านตรวจค้นได้บริเวณด่านตรวจปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ คนขับสารภาพรับจ้างขนมาจากชายแดนภาคใต้เพื่อมาส่งที่ กทม.ได้ค่าจ้าง 7 พันบาท

วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กรมศุลกากร นายราฆพ ศรีศุภอรรถ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนปราบปราม กรมศุลกากร แถลงข่าวจับกุมตัวนิ่มลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักร จำนวน 200 ตัว มูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท

นายราฆพ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากกรมศุลกากรสืบทราบว่าจะมีการลักลอบนำสัตว์ป่าจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยตามแนวชายแดนภาคใต้ นายอุทิศ ธรรมวาทิน จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนปราบปรามเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบค้าสัวต์สงวน หรือสัตว์ควบคุม โดยเฉพาะในส่วนของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าป่าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตวืป่าใกล้สูญพันธุ์ (CITES)

จนกระทั่งวานนี้ (22 ก.พ.) เวลา 10.00 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่ศุลกากร ศูนย์ป้องกันและปราบปรามศุลกากรปราณบุรี ตั้งจุดตรวจอยู่บริเวณด่านตรวจปราณบุรี ถนนเพชรเกษม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก็มีนายศิริมงคล คุณทวี ขับรถบรรทุกสิบล้อสีขาว หมายเลขทะเบียน 70-6521 นครปฐม ผ่านเข้ามา เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจค้นก็พบตัวนิ่มซึ่งมีแหล่งกำเนิดในต่างประเทศ จำนวน 200 ตัว มูลค่า 1,000,000 บาท จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

นายราฆพ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายศิริมงคลให้การรับสารภาพว่ามีคนจ้างให้ขนตัวนิ่มทั้งหมดมาจากชายแดนภาคใต้มาส่งที่ กทม. จากนั้นก็จะมีคนมารับช่วงต่อ โดยจะได้รับค่าจ้าง 7,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาตามความผิดมาตรา 27, 27 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบมาตรา 16, 17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร ฉบับที่ 9 พ.ศ.2482 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายราฆพกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรสืบสวนติดตามขบวนการลักลอบค้าตัวนิ่มจนทราบข้อมูลว่าจะมีนายทุนทั้งชาวไทยและจีน ลักลอบขนตัวนิ่มจากรปะเทศอินโดนีเซีย ผ่านเข้ามาทางประเทศมาเลเซีย เข้ามาทางจังหวัดสงขลา ของไทยจากนั้นก็จะใช้รถบรรทุกขนเข้ามาที่ กทม. ก่อนจะลำเลียงขึ้นไปข้ามฝั่งแม่น้ำโขงไปยังประเทศลาว แล้วส่งต่อไปยังประเทศจีน ทั้งนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรจับกุมได้บ่อยครั้งจึงมีการตัดตอนหลายทอด ทำให้คนขับรถบรรทุกที่จับกุมจะไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ว่าจ้างเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น