ดีเอสไอโชว์ฟอร์มสุดเจ๋ง หลังรับเรื่องการลักลอบนำเข้าชาวโรฮิงยา หลบหนีเข้าเมืองเป็นคดีพิเศษ ตระเวนจับชาวโรฮิงยาที่เร่ขายโรตีได้รวม 13 ราย รถเข็นโรตี 10 คัน แฉเล่ห์นายหน้า ไปรับกลับชาวโรฮิงยาที่ถูกผลักดันกลับมาขายแรงงานต่อในไทย
วันนี้ (19 ก.พ.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนจับกุมขบวนการนายหน้า ลักลอบนำต่างด้าวชาวโรฮิงยาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) มีมติรับเป็นคดีพิเศษ ว่า ขณะนี้ดีเอสไอได้จัดชุดทำงานร่วมกับหลายหน่วยงาน คาดว่า จะใช้เวลาสอบสวนอีกไม่เกิน 3 วัน จะมีความคืบหน้าที่ชัดเจน ในชั้นสืบสวนสอบสวนยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เพราะอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการลักลอบนำชาวต่างด้าวเข้าเมือง
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้กระจายกำลัง 8 ชุด เข้าจับกุมต่างด้าวชาวโรฮิงยา ซึ่งถูกกลุ่มนายหน้าชาวไทยลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ให้เข้ามาเป็นแรงงานเข็นรถขายโรตีในกรุงเทพฯ โดยพนักงานสอบสวนได้จับกุมชาวโรฮิงยา 13 ราย พร้อมรถเข็นขายโรตีกว่า 10 คัน ในชั้นสอบสวนได้จำแนกชาวโรฮิงยาที่อายุต่ำกว่า 18 ปี รวม 3 ราย ไว้เป็นพยานในฐานะเหยื่อของกระบวนการค้ามนุษย์ เพื่อสอบสวนให้ได้ข้อมูลโยงใยถึงขบวนการลักลอบนำชาวโรฮิงยาเข้ามาเป็นแรงงานเถื่อน ส่วนชาวโรฮิงยาที่อายุเกิน 18 ปี ดีเอสไอได้นำตัวส่งให้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
รายงานข่าวระบุด้วยว่า สำหรับขบวนการลักลอบนำชาวโรฮิงยาเข้าเมือง เพื่อขายแรงงานให้กับโรงงานอุตสากรรมและแฟรนไชส์ขายโรตี มีนายหน้าระดับผู้บงการ 2-3 กลุ่ม โดยนายหน้าชาวไทยจะรับตัวชาวโรฮิงยา หลังทางการผลักดันออกนอกประเทศ โดยเจ้าหน้าที่จะนำตัวขึ้นรถยนต์ไปส่งที่ชายแดนไทยฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก แต่ชาวโรฮิงยาจะเข้าไปในเขตแดนประเทศพม่าไม่ได้ เพราะพม่าไม่ถือเป็นประชาชน จากนั้นกลุ่มนายหน้าชาวไทยจะไปติดต่อรับตัวชาวโรฮิงยากลับเข้ามาขายแรงงาน โดยจะใช้เส้นทางผ่านไปยัง จ.ระนอง เพื่อส่งผ่านแรงงานต่างด้าวไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องการแรงงานต่างด้าว ในขั้นตอนดังกล่าวจะมีการปลอมเอกสารเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ว่าเป็นแรงงานที่ได้รับอนุญาตให้เข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
วันนี้ (19 ก.พ.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนจับกุมขบวนการนายหน้า ลักลอบนำต่างด้าวชาวโรฮิงยาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) มีมติรับเป็นคดีพิเศษ ว่า ขณะนี้ดีเอสไอได้จัดชุดทำงานร่วมกับหลายหน่วยงาน คาดว่า จะใช้เวลาสอบสวนอีกไม่เกิน 3 วัน จะมีความคืบหน้าที่ชัดเจน ในชั้นสืบสวนสอบสวนยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เพราะอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการลักลอบนำชาวต่างด้าวเข้าเมือง
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้กระจายกำลัง 8 ชุด เข้าจับกุมต่างด้าวชาวโรฮิงยา ซึ่งถูกกลุ่มนายหน้าชาวไทยลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ให้เข้ามาเป็นแรงงานเข็นรถขายโรตีในกรุงเทพฯ โดยพนักงานสอบสวนได้จับกุมชาวโรฮิงยา 13 ราย พร้อมรถเข็นขายโรตีกว่า 10 คัน ในชั้นสอบสวนได้จำแนกชาวโรฮิงยาที่อายุต่ำกว่า 18 ปี รวม 3 ราย ไว้เป็นพยานในฐานะเหยื่อของกระบวนการค้ามนุษย์ เพื่อสอบสวนให้ได้ข้อมูลโยงใยถึงขบวนการลักลอบนำชาวโรฮิงยาเข้ามาเป็นแรงงานเถื่อน ส่วนชาวโรฮิงยาที่อายุเกิน 18 ปี ดีเอสไอได้นำตัวส่งให้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
รายงานข่าวระบุด้วยว่า สำหรับขบวนการลักลอบนำชาวโรฮิงยาเข้าเมือง เพื่อขายแรงงานให้กับโรงงานอุตสากรรมและแฟรนไชส์ขายโรตี มีนายหน้าระดับผู้บงการ 2-3 กลุ่ม โดยนายหน้าชาวไทยจะรับตัวชาวโรฮิงยา หลังทางการผลักดันออกนอกประเทศ โดยเจ้าหน้าที่จะนำตัวขึ้นรถยนต์ไปส่งที่ชายแดนไทยฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก แต่ชาวโรฮิงยาจะเข้าไปในเขตแดนประเทศพม่าไม่ได้ เพราะพม่าไม่ถือเป็นประชาชน จากนั้นกลุ่มนายหน้าชาวไทยจะไปติดต่อรับตัวชาวโรฮิงยากลับเข้ามาขายแรงงาน โดยจะใช้เส้นทางผ่านไปยัง จ.ระนอง เพื่อส่งผ่านแรงงานต่างด้าวไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องการแรงงานต่างด้าว ในขั้นตอนดังกล่าวจะมีการปลอมเอกสารเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ว่าเป็นแรงงานที่ได้รับอนุญาตให้เข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
