xs
xsm
sm
md
lg

ซิว! แก๊งสวะเด็กช่างปล้น-อัปยา-โทรมเหยื่อถ่ายคลิป

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

สวะเด็กช่างโผล่อีก..งามหน้าตั้งแก๊ง “ฟีโน่เทคโน” รวมตัวปล้นทรัพย์เหยื่อ ขณะขับ จยย.อาวุธปืนจี้ฉุดแฟนเหยื่อรุมโทรม ถ่ายคลิป ก่อนแจ้งความจับ ตร.ส่งทีมล่าตามจับรวบได้ยกแก๊ง พบประวัติแต่ละคนสุดเลว ก่อคดีสารพัด ปล้น- ยิง-โทรมหญิง-ยา หัวหน้าแก๊งสารภาพ เมาสุราคึกคะนองตามประสาวัยรุ่น สำนึกหากพ้นโทษจะกลับตัวเป็นคดี วอน เด็กช่างทุกสถาบันอย่าทะเลาะกัน เพราะไม่มีประโยชน์อะไร

วันนี้ (18 ก.พ.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 15.00 น.พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป.พ.ต.ท.ณัฐกรณ์ ประภายนต์ รอง ผกก.1บก.ป.พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผกก.กลุ่มงานป้องกันและปราบปราม บก.ทล.ช่วยราชการ บก.ป.และ พ.ต.ต.อดิเรก จินตราน้นท์ สว.กก.1 บก.ป.ร่วมกันแถลงข่าวจับแก๊ง “ฟีโน่เทคโน” ประกอบด้วย นายนันทพร เพียนทำดี หรือ “บอล ปากแหว่ง” อายุ 20 ปี หัวหน้าแก๊ง นักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยีดุสิต ปวส.ปี 1 แผนกเทคนิคยานยนต์ นายนิธิกร จงสิริ หรือ หมูเล็ก อายุ 18 ปี นายปองเทพ อยู่สุขอาบ หรือหมู อายุ 20 ปี ปวส.ปี 2 สาขาเทคนิคยานยนต์ จับกุมได้ที่อาคารรุ่งเรืองวานิชแมนชั่น ซอยพระยาสุเรนทร์ 20 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.นายโอ๋ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นักเรียน ปวช.ปี 1 สาขาไฟฟ้ากำลัง จับกุมได้ที่บริเวณหน้าแฟลตคลองจั่น นายลำ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ปวช.ปี 2 สาขาไฟฟ้ากำลัง จับตัวได้ที่ปากซอยนวมินทร์ 105 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.และ นายเพรียว ยงค์ตระกูล หรือ เพรียว อายุ 20 ปี นักเรียนสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน สาขาวิชาวิศวกรรมการผลิต ปี 1 และมหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะนิติศาตร์ จับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 425/24 ซอยนวมินทร์ 24 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ 3 คัน สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน ลงพ 939 กทม.สีชมพู-ขาว ทะเบียน วรษ 948 กทม.และสีดำ-แดง ทะเบียน วงล 319 กทม.อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ เบอร์ 12 พร้อมกระสุน 2 นัด โทรศัพท์มือถืออีก 9 เครื่อง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2551 ผู้ต้องหาได้ขับรถจักรยานต์ไปเที่ยวดื่มกินที่ย่านตลาด อตก.ช่วงขากลับได้ขับมาทางถนนกำแพงเพชร กระทั่งมาพบ น.ส.อ้อม (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักเรียนโรงเรียนพาณิชย์แห่งหนึ่ง ขณะซ้อนท้ายรถ จยย.กับ แฟนหนุ่ม บริเวณสะพานข้ามแยกเกษตร หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.จึงขับรถปาดหน้าก่อนใช้อาวุธปืนจี้แฟน น.ส.อ้อม และมีดจี้บังคับ น.ส.อ้อม ขึ้นนั่งกลางไป ระหว่างนั้นมีคนมาเห็น ผู้ต้องหาจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ จากนั้นได้ฉุดตัว น.ส.อ้อม ไปรุมโทรมที่หมู่บ้านรังสิยา ย่าน กม.9 และถ่ายคลิปวิดีโอไว้ ก่อนหยิบเอาเงินสด 300 บาท โทรศัพท์มือถือ สร้อยคอทองคำ รวมมูลค่าประมาณ 10,000 บาท ต่อมาผู้ต้องหาได้นำตัว น.ส.อ้อม ไปปล่อยในช่วงสายของวันที่ 24 พฤศจิกายน 2551 ที่บริเวณ รพ.รามคำแหง ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.ภายหลังเกิดเหตุ น.ส.อ้อม ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางเขน

ต่อมา พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สุพิศาล พ.ต.อ.พรศักดิ์ ร่วมสืบสวนจับกุมตัวคนร้าย ซึ่งพบพฤติกรรมของคนร้ายก่อเหตุลักษณะดังกล่าวในหลายพื้นที่ทั้ง วังทองหลาง ลาดพร้าว โชคชัย และโคกคราม ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถสืบสวนทราบว่าคนร้ายแก๊งนี้เป็นนักเรียนของโรงเรียนเทคโนโลยีดุสิต มีชื่อแก๊งว่า “ฟีโน่เทคโน” โดยพบว่า นายนันทพร นายปองเทพ และ เพรียว ถูกตำรวจ สน.บางเขน ออกหมายจับข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นในลักษณะโทรมหญิงโดยมีและใช้อาวุธปืน

นอกจากนี้ นายนันทพร ยังมีหมายจับศาลอาญา ที่ 2763/2551 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีและใช้อาวุธปืนจากคดีร่วมกับ นายปิยะลักษณ์ สุคง อายุ 21 ปี อดีตนักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยีดุสิต ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามจับกุมก่อนหน้านี้ ก่อเหตุยิง นายวศิน สะและวงษ์ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เข้าที่ไหปลาร้าด้านซ้าย จนแขนซ้ายพิการ นอกจากนี้ ยังอยู่ในระหว่างประกันตัวในคดีฉุดนักเรียนพาณิชย์มารุมโทรมในโรงเรียน, รุมโทรมหญิงสาวที่ฉุดตัวมาจากบริเวณถนนรัชดาภิเษก, ทำร้ายร่างกายนักเรียนโรงเรียนโปลีเทคนิคมีนบุรีโดยถีบจักรยานยนต์จนล้ม และก่อเหตุชิงทรัพย์และปล้นทรัพย์รถจักรยานยนต์ย่านมีนบุรี รามอินทรา และรัชดาภิเษก

ส่วน นายนิธิกร เคยถูกจับกุมข้อหาเสพยาบ้า นายโอ๋ ถูกจับในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และนายลำ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1452/2551 ลงวันที่ 28 เมษายน 2551 ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ขณะที่ นายลำ ได้ร่วมกับพวก 6 คน ก่อเหตุใช้มีดแทงนักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยีบางกะปิจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

นายนันทพร หัวหน้าแก๊ง กล่าวว่า ได้ก่อเหตุฉุดหญิงสาวมารุมโทรมและขโมยทรัพย์สินเหยื่อจริง เนื่องจากเมาเหล้าและเกิดความคึกคะนองตามประสาวัยรุ่น นำเงินเหยื่อมากินเหล้าและเที่ยวเตร่ ทั้งนี้ทำมาแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ส่วนคดีที่ร่วมกับ นายปิยะลักษณ์ ยิงนักศึกษาอุเทนฯ นั้น เพราะมีเรื่องทะเลาะวิวาท และคดีที่ร่วมกับพวก 6 ราย รุมโทรมนักเรียนพาณิชย์ภายในโรงเรียนเทคโนโลยีดุสิตนั้น อยู่ระหว่างประกันตัว จากนั้นจึงดร็อปเรียน 1 ปี และมาสมัครเรียนใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ขอสัญญาว่าเมื่อพ้นคดี จะเลิกพฤติกรรมไม่ดีทั้งหมด

ส่วน นายปองเทพ กล่าวว่า ขอให้กลุ่มตนเป็นกลุ่มสุดท้าย และอยากให้นักเรียนช่างกลทุกสถาบันเลิกทะเลาะกัน เพราะไม่มีประโยชน์อะไร ตนได้สำนึกผิดแล้ว เมื่อออกจากคุกจะบวชทดแทนคุณพ่อแม่และจะปรับปรุงตัวเสียใหม่

ด้าน นายอนิรุธ เพชรรัตน์ อายุ 16 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เวลา 05.00 น.ระหว่างที่ตนขับจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีเลือดหมู ทะเบียน 324 กทม.ไปส่งแฟนสาว เมื่อถึงบริเวณปากซอยรัชดาภิเษก 3 ได้พบกลุ่มของ นายนันทพร ขับรถมาจอดรออยู่ก่อนจะขับตามมาประกบและแกล้งสอบ ถามเส้นทาง 4-5 ครั้ง จากนั้น นายโอ๋ ได้ใช้มีดจี้บังคับตนพร้อมกับบอกว่าให้นำเงินมา 1,000 บาท แต่ตนไม่มีเงินจึงยื่นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่น 6233 ให้ไปแทน แต่นายโอ๋ยังบอกกับตนอีกว่า “รถกับแฟนจะเลือกอะไร” ตนจึงยอมให้รถไป

อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ กลุ่มผู้ต้องหายังได้ร่วมกันก่อเหตุฉุดหญิงสาวจากย่านรัชดาภิเษกไปรุมโทรมที่หมู่บ้านรังสิยา ย่านรามอินทรา กม.9 แต่เหตุดังกล่าวเหยื่อสาวไม่ได้เข้าแจ้งความแต่อย่างใดทำให้กลุ่มผู้ต้องหาย่ามใจลงมือก่อเหตุมาอย่างต่อเนื่อง

พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหารายนี้เป็นการดำเนินการตามนโยบายของ พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบก.ป.เปิดชุมชนสามยอดส่งกำลังตำรวจลงพื้นที่ชุมชนย่านบางเขนและละแวกใกล้เคียง และเป็นลักษณะของต้นไม้อาชญากรรมที่เริ่มจากเด็กแซวหญิงสาว พัฒนามาถึงขั้นลักทรัพย์ จี้ชิงทรัพย์ และข่มขืน รุมโทรมหญิง ก่อนจะเติบโตไปเป็นแก๊งอาชญากร สำหรับผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหาแก๊งนี้ลงมือก่อเหตุสามารถเข้ามาชี้ตัว และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ ชุดจับกุม กก.1 บก.ป.ได้ควบคุม นายนันทพร ส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ดำเนินคดี ส่วนผู้ต้องหารายอื่น ได้แยกตัวไปส่งพนักงานสอบสวนตาม สน.ที่ถูกออกหมายจับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาแถลงข่าว


ก้มหน้ารับโทษ
เหยื่อผู้เสียหายเข้าชี้ตัว

กำลังโหลดความคิดเห็น