เลื่อนประชุม ก.ตร.ไม่มีกำหนด ปัดไม่เกี่ยวตั้งรอง ผบ.ตร.ไม่ลงตัว

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงเลื่อนการประชุม ก.ตร.ออกไปโดยไม่มีกำหนด โดยระบุไม่เกี่ยวกับตำแหน่งการแต่งตั้งรอง ผบ.ตร.ที่ยังไม่ลงตัว หลังจากการประชุมเมื่อครั้งก่อนล่มไม่เป็นท่า

วันนี้ (12 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร.กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.พ.) ที่จะมีวาระการพิจารณาแต่งตั้งทดแทนตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ที่ว่างลงว่า ปกติการประชุม ก.ตร.กำหนดไว้ 2 ครั้ง คือ สัปดาห์ที่ 1 และสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ซึ่งมีการประชุมไปเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ต้องดูวาระต่อไปว่ามีอะไรบ้างที่มีการประชุม โดยยืนยันว่าพรุ่งนี้ยังไม่มีการประชุม ก.ตร.

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลื่อนประชุม ก.ตร.เนื่องจากการกำหนดตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ไม่ลงตัวหรือไม่ พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องเพราะมีประเด็นในเรื่องการดำเนินการตามมติ ก.ตร. ซึ่งต้องใช้เวลาตรวจสอบข้อมูลต้องรัดกุม ต้องชัดเจนเพราะหากไม่สมบูรณ์เมื่อนำไปเสนออาจไม่ได้ข้อยุติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า รายชื่อที่มีการพิจารณาไปแล้วต้องรอโปรดเกล้าฯ พร้อมกับชุดที่จะพิจารณาทีหลังด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า คงไม่จำเป็นเพราะไม่เกี่ยวข้องกันในเฉพาะส่วนที่จะแต่งตั้งตำแหน่งทดแทน รอง ผบ.ตร.ก็อยู่ในส่วน ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นรอง ผบ.ตร. และ ผบ.ช. ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร. ส่วนที่เหลือที่ไม่เกี่ยวกันอย่าง ศปก.จชต.ก็ต้องได้คนไปทำงานเพราะกฎหมายกำลังมีผลในเร็วนี้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ได้มีหนังสือด่วนแจ้งไปยังคณะกรรมการ ก.ตร.เรื่องเลื่อนกำหนดการประชุม วาระพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.ที่ว่างลงออกไปโดยไม่มีกำหนด หลังจากที่ก่อนหน้านี้วาระการประชุมดังกล่าวได้มีการประชุมพิจารณาไปแล้ว เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ว่าผู้ใดสมควรและเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร. ระหว่าง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. จึงได้เลื่อนกำหนดการประชุมพิจารณาออกไปในวันที่ 13 ก.พ. โดยคาดว่าจะเลื่อไปเป็นวันศุกร์ที่ 20 ก.พ. แทน

ส่วนมติการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับผู้บังคับการถึงผู้บัญชาการเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมาเกือบ 100 ตำแหน่งนั้น ในขณะนี้ยังไม่มีผลจนกว่าจะได้รับการพิจารณาโปรดเกล้าฯ หรือมีคำสั่งจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ไปปฏิบัติราชการแทน