ผู้จัดการบริษัทประกันภัยสาวใหญ่ แจ้งความเอาผิด “สายการบินนกแอร์” ปล่อยผู้โดยสารจองตั๋วทางอินเทอร์เน็ตตกเที่ยวบิน อ้างเหตุเช็กอินช้า ตำรวจระบุเป็นเรื่องทำผิดสัญญาแนะฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง
วันนี้ (31 ม.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น.นางอุดมลักษณา อัศวะรังษีกุล อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/4 ถนนเวชพฤกษ์ ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ผู้จัดการบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต สาขาทุ่งสง พร้อมเพื่อนผู้เสียหายอีก 4 คนเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.บุญโชติ เลี้ยงบำรุง พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ดอนเมือง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับสายการบินนกแอร์ที่ปล่อยให้ตกเที่ยวบิน
นางอุดมลักษณา เปิดเผยว่า ตนเป็นลูกค้าประจำของสายการบินนกแอร์ ต้องบินเข้า กทม.และบินไปที่ต่างๆ เพื่อทำกิจกรรมของบริษัทเป็นประจำ อีกทั้งยังเป็นสมาชิกฟิกซ่าการ์ด ประเภทจ่ายเงินล่วงหน้ากับสายการบินนกแอร์อีกด้วย ซึ่งก่อนเกิดเหตุหลัง จากตนเสร็จธุระติดต่อกับสำนักงานใหญ่ใน กทม.และมีกำหนดกลับไปทำกิจกรรมขอบคุณลูกค้าที่ทุ่งสง ช่วงบ่ายวานนี้ (30 ม.ค.) ตนจึงซื้อตั๋วเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช จำนวน 1 ที่นั่ง ในราคา 2,190 บาท ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตของนกแอร์ โดยหลังจากนั้น ก็มี SMS ตอบรับการซื้อตั๋วเป็นหลักฐาน
นางอุดมลักษณา กล่าวต่อว่า ต่อมาเวลา 14.00 น.ของวันนี้ ตนก็เดินทางมาที่สนามบินดอนเมือง และพยายามสังเกตป้ายแจ้งการเช็กอิน และรอฟังประกาศเรียก แต่ผ่านไปจนเวลา 14.50 น.ก็เห็นผิดสังเกต เพราะใกล้เวลาเครื่องขึ้นแล้วแต่ยังไม่มีการเรียกเช็กอิน จึงเข้าไปถามพนักงานที่เคาท์เตอร์ได้รับคำตอบว่า “สายการบินปิดรับผู้โดยสารไปแล้ว” และยังปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือใดๆ เลย อีกทั้งไม่ยอมคืนเงินโดยอ้างว่า ตนเป็นฝ่ายผิดสัญญาการบินไม่เช็คอินก่อน 2 ชั่วโมง
“หลังจากนั้น ดิฉันก็เจอเพื่อนร่วมชะตากรรม ตกเที่ยวบินอีก 9 คน จึงตัดสินใจว่าจะเข้าแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง เมื่อพนักงานเห็นดังนั้น ก็เริ่มมีท่าทีอ่อนลง พยายามจะเจราจายอมคืนเงินเพื่อแลกกับการไม่ต้องแจ้งความ แต่พวกเราเห็นว่า เพื่อเป็นบรรทัดฐานตรวจสอบการไม่รับผิดชอบลูกค้า จึงต้องการดำเนินการอย่างถึงที่สุดทั้งทางแพ่ง รวมทั้งการฟ้องร้องต่อ สคบ.ด้วย” นางอุดมลักษณา กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.บุญโชติ เปิดเผยว่า กรณีนี้เป็นคดีแพ่งเกี่ยวกับการผิดสัญญาการให้บริการ ทางตำรวจจะลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมแนะนำขั้นตอนการฟ้องร้องทางแพ่งต่อไป