“พุ่มเพชร” ลูกชายราชีนีลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” แจ้งตำรวจ ถูกส่งเอสเอ็มเอสข่มขู่ เชื่อ ฝีมือผู้กำกับหนัง “เปิงมาง” หลังจากที่แจ้งตำรวจดำเนินคดีฉ้อโกง
วันนี้ (27 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ สน.หัวหมาก นายสรรภพ หรือ เพชร ลีละเมฆินทร์ อายุ 22 ปี ลูกชายของอดีตราชินีนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” พร้อม นางสุพรรณี สุประการ อายุ 50 ปี แม่บุญธรรม พักอาศัยอยู่หมู่บ้านศิขริน ซอยรามคำแหง 42 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.เฉลิมพล รุ่งรัตน์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.หัวหมาก เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่า ถูกผู้ไม่หวังดีส่ง sms ข่มขู่ทางโทรศัพท์มือถือ
นายสรรภพ ให้การว่า ก่อนเข้าแจ้งความในวันนี้ ได้มี SMS เขียนว่า “ดวงแม่สูไม่ดี ให้สะสางด่วน จากผู้ข่มขู่” ถูกส่งมาจากโทรศัพท์มือถือหมายเลข 087-508-0035 เข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของตน จำนวน 2 ครั้ง ในเวลา 10.22 น.และเวลา 11.14 น.หลังจากนั้น ก็มีข้อความเขียนว่า “แม่สูเกิดวันพฤหัสที่ 25 พ.ศ.2502 ใช่ไหม อย่าล้อเล่นเป็นหม้ายใช่ไหม” ถูกส่งมาจากโทรศัพท์หมายเลขเดิมอีกครั้งหนึ่ง เมื่อตนโทร.กลับไปที่หมายเลขดังกล่าว กลับไม่มีคนรับสาย จึงเกรงว่าจะเกิดเหตุไม่ดีกับครอบครัวตน จึงเดินทางเข้าแจ้งความดังกล่าว
นายสรรภพ ให้การต่อว่า ตนไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาท หรือบาดหมางกับใครมาก่อนเลย นอกจากเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้าแจ้งความที่ สน.ลาดพร้าว ให้ดำเนินคดีกับ นายณัฐพีระ ชมศรี หรือ เชนทร์ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง เปิงมาง ในข้อหาฉ้อโกง โดยก่อนหน้านี้ ประมาณ 8-9 เดือนก่อน นายณัฐพีระ ได้เข้ามาตีสนิทไปมาหาสู่กับครอบครัวตนหลายครั้ง จากนั้นก็มาพาลูกเมียมาพูดชักชวนตนให้เปิดบริษัทย่อยของพระนครฟิล์ม เพื่อรับตัดต่อภาพยนตร์โดยตรง โดยอ้างว่า มีฝีมือแต่ไม่มีเงินทุน
นายสรรภพ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น ตนตกลงร่วมลงทุนเปิดบริษัทไปประมาณ 100,000 บาท แต่ นายณัฐพีระ ไม่เคยมาดูแลที่บริษัทเลย เมื่อตนโทร.ไปสอบถามก็ได้รับคำตอบว่า ต้องซื้อเครื่องตัดต่ออีกราคาประมาณ 250,000 บาท ให้ตนโอนเงินเข้าบัญชีไป พอตนโอนเงินเข้าไปให้ เจ้าตัวก็กลับหายเงียบไปเลย โทรศัพท์ไปหาก็ไม่ยอมรับ เมื่อสามารถติดต่อได้ก็พูดจาบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนกระทั่งวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนก็ได้โทรศัพท์ไปทวงถามเรื่องเงินอีกครั้ง แต่ นายณัฐพีระ กลับต่อว่า ต่างๆ นานา อีกทั้งยังท้าให้ตนไปแจ้งความ ตนจึงไปแจ้งความไว้ที่สน.ลาดพร้าว ดังกล่าว และเมื่อวานนี้ (26 ม.ค.) ตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามร้อยเวรเจ้าของคดี ก็ทราบว่า ทางตำรวจได้ส่งหมายเรียก นายณัฐพีระ ไปแล้ว ซึ่งเจ้าตัวอาจจะได้รับหมายเรียกแล้วเกิดอาการโมโห จึงส่งข้อความข่มขู่มา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งจะข้อมูลและเบอร์โทรศัพท์หมายเลขดังกล่าวไปตรวจสอบว่าเป็นหมายเลขของใคร ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (27 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ สน.หัวหมาก นายสรรภพ หรือ เพชร ลีละเมฆินทร์ อายุ 22 ปี ลูกชายของอดีตราชินีนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” พร้อม นางสุพรรณี สุประการ อายุ 50 ปี แม่บุญธรรม พักอาศัยอยู่หมู่บ้านศิขริน ซอยรามคำแหง 42 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.เฉลิมพล รุ่งรัตน์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.หัวหมาก เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่า ถูกผู้ไม่หวังดีส่ง sms ข่มขู่ทางโทรศัพท์มือถือ
นายสรรภพ ให้การว่า ก่อนเข้าแจ้งความในวันนี้ ได้มี SMS เขียนว่า “ดวงแม่สูไม่ดี ให้สะสางด่วน จากผู้ข่มขู่” ถูกส่งมาจากโทรศัพท์มือถือหมายเลข 087-508-0035 เข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของตน จำนวน 2 ครั้ง ในเวลา 10.22 น.และเวลา 11.14 น.หลังจากนั้น ก็มีข้อความเขียนว่า “แม่สูเกิดวันพฤหัสที่ 25 พ.ศ.2502 ใช่ไหม อย่าล้อเล่นเป็นหม้ายใช่ไหม” ถูกส่งมาจากโทรศัพท์หมายเลขเดิมอีกครั้งหนึ่ง เมื่อตนโทร.กลับไปที่หมายเลขดังกล่าว กลับไม่มีคนรับสาย จึงเกรงว่าจะเกิดเหตุไม่ดีกับครอบครัวตน จึงเดินทางเข้าแจ้งความดังกล่าว
นายสรรภพ ให้การต่อว่า ตนไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาท หรือบาดหมางกับใครมาก่อนเลย นอกจากเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้าแจ้งความที่ สน.ลาดพร้าว ให้ดำเนินคดีกับ นายณัฐพีระ ชมศรี หรือ เชนทร์ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง เปิงมาง ในข้อหาฉ้อโกง โดยก่อนหน้านี้ ประมาณ 8-9 เดือนก่อน นายณัฐพีระ ได้เข้ามาตีสนิทไปมาหาสู่กับครอบครัวตนหลายครั้ง จากนั้นก็มาพาลูกเมียมาพูดชักชวนตนให้เปิดบริษัทย่อยของพระนครฟิล์ม เพื่อรับตัดต่อภาพยนตร์โดยตรง โดยอ้างว่า มีฝีมือแต่ไม่มีเงินทุน
นายสรรภพ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น ตนตกลงร่วมลงทุนเปิดบริษัทไปประมาณ 100,000 บาท แต่ นายณัฐพีระ ไม่เคยมาดูแลที่บริษัทเลย เมื่อตนโทร.ไปสอบถามก็ได้รับคำตอบว่า ต้องซื้อเครื่องตัดต่ออีกราคาประมาณ 250,000 บาท ให้ตนโอนเงินเข้าบัญชีไป พอตนโอนเงินเข้าไปให้ เจ้าตัวก็กลับหายเงียบไปเลย โทรศัพท์ไปหาก็ไม่ยอมรับ เมื่อสามารถติดต่อได้ก็พูดจาบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนกระทั่งวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนก็ได้โทรศัพท์ไปทวงถามเรื่องเงินอีกครั้ง แต่ นายณัฐพีระ กลับต่อว่า ต่างๆ นานา อีกทั้งยังท้าให้ตนไปแจ้งความ ตนจึงไปแจ้งความไว้ที่สน.ลาดพร้าว ดังกล่าว และเมื่อวานนี้ (26 ม.ค.) ตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามร้อยเวรเจ้าของคดี ก็ทราบว่า ทางตำรวจได้ส่งหมายเรียก นายณัฐพีระ ไปแล้ว ซึ่งเจ้าตัวอาจจะได้รับหมายเรียกแล้วเกิดอาการโมโห จึงส่งข้อความข่มขู่มา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งจะข้อมูลและเบอร์โทรศัพท์หมายเลขดังกล่าวไปตรวจสอบว่าเป็นหมายเลขของใคร ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป