ปส.สกัดจับหนุ่มเอเยนต์ค้ายาบ้า ขณะขับรถนำยาบ้าไปส่งลูกค้าย่านคลองเตย หลังสืบทราบจากสายลับว่าจะมีการส่งยาเสพติด ก่อนสามารถรวบตัวและริบของกลางยาบ้าจำนวน 10 มัด มูลค่า 6 ล้านบาท ผู้ต้องหาสารภาพรับยามาจาก อ.แม่สอด จ.ตาก เจ้าของเป็นเอเยนต์รายใหญ่ทางภาคเหนือ ได้ค่าจ้างครั้งละ 2 หมื่นบาท
วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ท.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส.พล.ต.ต.แสงสูรย์ กรรณสูต ผบก.ปส.2 พ.ต.อ.ชาติชาย ชื่นเอม ผกก.3 บก.ปส.2 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.3 บก.ปส.2 จำนวนหนึ่ง ร่วมกันจับกุมตัว นายอัฐพงษ์ วงศ์เกษร อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาลักลอบขนยาบ้า พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 10 มัด รวม 20,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 6,000,000 บาท และรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิวิค สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน 9ษ-1349 กทม.โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณถนนเกษตร-นวมินทร์ ระหว่างหลักตอม่อที่ 173-174 ใกล้สี่แยกสุคนธสวัสดิ์ มุ่งหน้าเลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม.
พล.ต.ต.แสงสูรย์ กล่าวเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอสงวนนาม) ว่าจะมีผู้ลักลอบลำเลียงยาบ้าไปส่งให้กับลูกค้าย่านคลองเตย โดยใช้รถเก๋งคันดังกล่าวเป็นยานพาหนะ วิ่งมาตามถนนเกษตร-นวมินทร์ มุ่งหน้าถนนเลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลังดักซุ่มตามเส้นทางลำเลียง เมื่อพบรถเก๋งคันที่ได้รับแจ้ง โดยมีนายอัฐพงษ์เป็นผู้ขับขี่จึงได้เรียกให้หยุดรถเพื่อทำการตรวจค้น ก็พบยาบ้าจำนวนดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าถือแบบผู้หญิงสีขาวลายจุดดำ วางอยู่บนเบาะนั่งซ้ายข้างคนขับ จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมควบคุมตัวนายอัฐพงษ์มาทำการสอบสวน
พล.ต.ต.แสงสูรย์ กล่าวต่อไปว่า จากการสืบสวนทราบว่ายาบ้าจำนวนดังกล่าวได้ลำเลียงมาจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งเป็นของเอเยนต์รายใหญ่ทางภาคเหนือ เพื่อนำไปส่งต่อให้กับลูกค้าย่านคลองเตย ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และละแวกใกล้เคียง โดยจะใช้วิธีการส่งต่อเป็นทอดๆ เพื่อไม่ให้แต่ละคนรู้จักกัน หากถูกจับจะได้ซักทอดไม่ถึงตัวการใหญ่ ส่วนนายอัฐพงษ์ได้ให้การรับสารภาพว่าเพียงผู้รับจ้างขนยาบ้าไปส่งให้กับลูกค้าตามคำสั่งเท่านั้น โดยจะมีคนโทรศัพท์มาบอกให้ขับรถคันดังกล่าวเพื่อไปทิ้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ และจะมีคนมารับช่วงต่อจากตนอีกทอดหนึ่ง ซึ่งตนทำมาแล้วหลายครั้งได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000 บาท หรือแล้วแต่จำนวนยาบ้าที่ขนไปส่ง
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวดำเนินคดีกฎหมาย หลังจากนี้จะได้ทำการสืบสวนขยายผลเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังและผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ท.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส.พล.ต.ต.แสงสูรย์ กรรณสูต ผบก.ปส.2 พ.ต.อ.ชาติชาย ชื่นเอม ผกก.3 บก.ปส.2 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.3 บก.ปส.2 จำนวนหนึ่ง ร่วมกันจับกุมตัว นายอัฐพงษ์ วงศ์เกษร อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาลักลอบขนยาบ้า พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 10 มัด รวม 20,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 6,000,000 บาท และรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิวิค สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน 9ษ-1349 กทม.โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณถนนเกษตร-นวมินทร์ ระหว่างหลักตอม่อที่ 173-174 ใกล้สี่แยกสุคนธสวัสดิ์ มุ่งหน้าเลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม.
พล.ต.ต.แสงสูรย์ กล่าวเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอสงวนนาม) ว่าจะมีผู้ลักลอบลำเลียงยาบ้าไปส่งให้กับลูกค้าย่านคลองเตย โดยใช้รถเก๋งคันดังกล่าวเป็นยานพาหนะ วิ่งมาตามถนนเกษตร-นวมินทร์ มุ่งหน้าถนนเลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลังดักซุ่มตามเส้นทางลำเลียง เมื่อพบรถเก๋งคันที่ได้รับแจ้ง โดยมีนายอัฐพงษ์เป็นผู้ขับขี่จึงได้เรียกให้หยุดรถเพื่อทำการตรวจค้น ก็พบยาบ้าจำนวนดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าถือแบบผู้หญิงสีขาวลายจุดดำ วางอยู่บนเบาะนั่งซ้ายข้างคนขับ จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมควบคุมตัวนายอัฐพงษ์มาทำการสอบสวน
พล.ต.ต.แสงสูรย์ กล่าวต่อไปว่า จากการสืบสวนทราบว่ายาบ้าจำนวนดังกล่าวได้ลำเลียงมาจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งเป็นของเอเยนต์รายใหญ่ทางภาคเหนือ เพื่อนำไปส่งต่อให้กับลูกค้าย่านคลองเตย ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และละแวกใกล้เคียง โดยจะใช้วิธีการส่งต่อเป็นทอดๆ เพื่อไม่ให้แต่ละคนรู้จักกัน หากถูกจับจะได้ซักทอดไม่ถึงตัวการใหญ่ ส่วนนายอัฐพงษ์ได้ให้การรับสารภาพว่าเพียงผู้รับจ้างขนยาบ้าไปส่งให้กับลูกค้าตามคำสั่งเท่านั้น โดยจะมีคนโทรศัพท์มาบอกให้ขับรถคันดังกล่าวเพื่อไปทิ้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ และจะมีคนมารับช่วงต่อจากตนอีกทอดหนึ่ง ซึ่งตนทำมาแล้วหลายครั้งได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000 บาท หรือแล้วแต่จำนวนยาบ้าที่ขนไปส่ง
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวดำเนินคดีกฎหมาย หลังจากนี้จะได้ทำการสืบสวนขยายผลเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังและผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป