สาวนครพนมคลั่งใช้กรรไกรจี้คอตัวเองหน้าสถานทูตญี่ปุ่น ร้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยตาหาผัวชาวญี่ปุ่นที่หายตัวไปตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุแท้งลูก ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมอยู่นาน 3 ชั่วโมง แต่เจรจาไม่เป็นผล เลยใช้ปืนไฟฟ้ายิงใส่ขาก่อนเข้าชาร์จตัวเอาไว้ได้
เมื่อเวลา 19.00 น.วันนี้ (15 ม.ค.) ร.ต.อ.นพดล นิ่มละมูล หัวหน้าสายตรวจ สน.ลุมพินี รับแจ้งมีเหตุหญิงคลุ้มคลั่งใช้กรรไกรจี้คอตัวเองอยู่บริเวณหน้าสถานทูตญี่ปุ่น ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จึงนำรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณริมถนนหน้าประตูทางเข้าสถานทูต เจ้าหน้าที่พบ น.ส.ยุพิน หรือเอริน พลพาล อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 5 ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม ยืนอยู่ในชุดลายขาวดำ สวมแว่นตากันแดด ใช้กรรไกรแหลมด้ามสีแดงจี้คอตัวเองอยู่ด้วยอาการคลุ้มคลั่งร้องไห้อยู่ตลอดเวลา พร้อมตะโกนบอกไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปใกล้ตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเกลี้ยงกล่อม แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมเจรจาหรือวางกรรไกรแต่อย่างใด
ทั้งนี้ น.ส.ยุพิน บอกเพียงว่าให้ตำรวจประสานกับเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่น ให้ช่วยติดต่อนายคัตสึ ชาวญี่ปุ่น สามีของตนเองให้เดินทางมาพบ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำตามที่เจ้าตัวร้องขอ โดยนายคัตสึรับปากว่าจะเดินทางมายังที่เกิดเหตุ
ต่อมาได้มี น.ส.ยุวธิดา โง่นสา อายุ 24 ปี เพื่อนของ น.ส.ยุพิน เดินทางมายังที่เกิดเหตุพร้อมเปิดเผยว่า เพื่อนของตนพักอาศัยอยู่ที่ที่อาคารสุปัญญ์แมนชั่น ย่านซอยรางน้ำ ไม่มีงานทำแต่อย่างใด โดยก่อนหน้านี้เพื่อนของตนเคยคบหาอยู่กินกับสามีชาวญี่ปุ่นชื่อ คัตซึ อายุ 23 ปี จนตั้งท้อง แต่หลังจากนั้นไม่นานเพื่อนของตนก็เกิดแท้งลูกที่โรงพยาบาลราชวิถี จนภายหลังสามีชาวญี่ปุ่นก็ตีตัวออกห่างและหายไปในที่สุด กระทั่งวันนี้ทราบว่าเพื่อนของตนจะมาร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ของสถานฑูตญี่ปุ่นช่วยตามหาสามีให้ จึงนั่งแท็กซี่ตามมา เมื่อมาถึงก็พบว่าเพื่อนของตนเกิดอาการคลั่งใช้กรรไกรจี้คอตัวเองดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการเกลี้ยกล่อมอยู่นานถึง 3 ชั่วโมง น.ส.ยุพิน ก็ไม่มีท่าทีจะยอมวางกรรไกรแต่อย่างใด อีกทั้งเกรงว่าหากนายคัตสึมาถึงแล้วเจรจากันไม่ลงตัว น.ส.ยุพิน อาจใช้กรรไกรทำร้ายร่างกายตัวเองได้ จึงอาศัยจังหวะเผลอใช้ปืนไฟฟ้ายิงที่ขาจนเจ้าตัวล้มลง ก่อนจะเข้าชาร์จตัวช่วยเหลือเอาไว้ได้ และนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬาฯ ทันที