“ทหาร-ตำรวจ-ราชทัณฑ์” ผนึกกำลังตรวจค้นเรือนจำคลองเปรม พบโทรศัพท์มือถือ-ซิมการ์ดใส่ถุงถ่วงน้ำพรางตา โพยพนันบอลถูกทิ้งในท่อระบายน้ำเพียบ ด้านอธิบดีราชทัณฑ์เล็งส่งสายลับแฝงตัวเป็นนักโทษขยายผลคดียาเสพติด ส่วน “พีระพันธุ์” ขอความร่วมมือผบ.เรือนจำทั่วประเทศจัดระเบียบคุกปลอดยาเสพติด-โทร.มือถือ
วันนี้ (15 ม.ค.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นำกำลังทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ กว่า 300 นายเข้าตรวจค้นและจัดระเบียบเรือนจำครั้งใหญ่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม โดยจากการตรวจค้นแดนแรกรับที่ห้องฝึกอาชีพช่างหนัง พบวัตถุดัดแปลงคล้ายมีด ใบมีดคัตเตอร์จำนวนหนึ่ง และไฟแช็กดัดแปลง นอกจากนี้ยังพบนักโทษนำปลากัดมาเล่นพนันในเรือนจำจึงยึดไว้ ส่วนแดน 4 ซึ่งคุมขังนักโทษจำนวน 800 คน เจ้าหน้าที่ตรวจค้นล็อกเกอร์ตู้เก็บของเลขที่ 145 พบผงสีขาวบรรจุในหลอดกาแฟ เจ้าหน้าที่จึงเร่งตรวจสอบว่านักโทษรายใดเป็นเจ้าของล็อกเกอร์ดังกล่าว และส่งของกลางไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นยาเสพติดหรือไม่ นอกจากนี้ ในบริเวณท่อระบายน้ำพบโพยพนันฟุตบอลพีเมียร์ลีกถูกทิ้งเป็นจำนวนมาก และยังพบเก้าอี้ผ้าใบชายหาดหลาย 10 ตัว วางเรียงราย คล้ายกับจัดไว้เป็นสถานที่พักผ่อนของนักโทษ ภายในโรงอาหารและห้องฝึกดนตรีพบสายสมอลทอล์ก 1 เส้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนการตรวจค้นในแดน 5 ซึ่งเป็นแดนความมั่นคงสูง คุมขังนักโทษที่ต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป พบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง นอกจากนี้บริเวณร่องระบายน้ำริมแนวกำแพงยังพบสิ่งผิดสังเกตเป็นเชือกโยงลงไปในท่อระบายน้ำ เมื่อเจ้าหน้าที่ชักขึ้นมาพบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ซิมการ์ด 3 ชิ้น ใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุงอย่างแน่นหนา และใช้หินถ่วงให้จมน้ำเพื่ออำพรางสายตาเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามผู้ต้องขังเปิดเผยว่ารู้ข่าวว่าจะมีการตรวจค้นครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์
นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า การจัดระเบียบล้างเรือนจำครั้งใหญ่มีจุดประสงค์ที่จะขจัดสิ่งของต้องห้ามที่นักโทษลักลอบนำเข้ามาในเรือนจำ รวมถึงโทรศัพท์มือถือ เพื่อป้องกันการลักลอบสั่งซื้อขายยาเสพติดจากในเรือนจำ นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ยังได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงยุติธรรมในการส่งเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เป็นสายลับแฝงตัวเข้าไปในหมู่นักโทษ เพื่อสืบสวนหาข้อมูลนักค้ายาเสพติดทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังสำหรับเรือนจำที่ขาดแคลนผู้คุม กรมราชทัณฑ์จะประสานของกำลังทหารเข้ามาช่วยดูแลผู้ต้องขัง โดยจะเริ่มโครงการนำร่องที่เรือนจำจังหวัดชลบุรี
ด้าน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนต้องการความร่วมมือจากผู้บัญชาการเรือนจำทั่วประเทศ ในการกวาดล้างจัดระเบียบเรือนจำให้ปลอดจากยาเสพติด และโทรศัพท์มือถือ โดยจะไม่มีการคาดโทษเจ้าหน้าทื่ เพราะไม่ต้องการเข้ามาเป็นศัตรู เว้นแต่เรือนจำที่ปล่อยปะละเลยก็จะต้องมีมาตรการให้เจ้าหน้าที่ร่วมรับผิดชอบ ทั้งนี้ ภายหลังการกวาดล้างเรือนจำครั้งใหญ่ ในแต่ละเรือนจำต้องจัดวางมาตรการป้องกันไม่ให้มีสิ่งของต้องห้ามถูกลักลอบนำเข้ามาในเรือนจำ โดยในเร็วๆ นี้ตนจะเรียกประชุมผู้บัญชาการเรือนจำทั่วประเทศมาพูดคุยอย่างจริงจัง เพื่อรับฟังแนวทางการแก้ปัญหาในแต่ละเรือนจำที่มีสภาพนักโทษแตกต่างกัน