ตร.สืบสวนสอบสวน บก.น.4 จับกุมเอเยนต์ยาบ้ารายใหญ่ย่านประเวศ และพระโขนง พร้อมยาบ้า 1,855 เม็ด เผยเคยก่อเหตุหลายคดี ทั้งยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจสาหัส และพกพาอาวุธปืน ขณะจับกุมพยายามขับรถหลบหนี แต่เสียหลักพุ่งชนเสาข้างทางก่อนถูกจับดำเนินคดี
วานนี้ (13 ม.ค.) เมื่อเวลา 23.00 น. พ.ต.อ. พชร บุญญสิทธิ์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผกก.สส.บก.น.4 พ. พ.ต.ท.ทวีป โพธิ์แก้ว รองผกก.สส.บก.น.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ แถลงข่าวจับกุม นายชุมพล หรือโห้ ราชามนัส อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาคดีจำหน่ายยาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,855 เม็ด บรรจุถุงพลาสติกสีฟ้า ห่อหุ้มด้วยกระดาษชุบไข อาวุธปืนออโตเมติก ยี่ห้อบาเร็ตต้า ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 32 นัด เงินสดจำนวน 407,000 บาท สร้อยคอ สร้อยข้อมือและแหวนทองคำ และรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน วภ 8497 กทม.จำนวน 1 คัน
พ.ต.อ.พชร กล่าวว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายยาเสพติดหรือยาบ้า โดยเป็นผู้จำหน่ายรายใหญ่ในเขตประเวศ และพระโขนง โดยขณะจำหน่ายยาบ้าจะมีอาวุธปืนติดตัวไว้ตลอด และหากทำให้ไม่พอใจก็จะใช้อาวุธปืนยิงสายตำรวจที่มาล่อซื้อ หรือแม้กระทั่งผู้ซื้อยาบ้าที่หักหลังกันทันที โดยครั้งล่าสุดผู้ต้องได้ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปลอมตัวเป็นสายลับขณะเข้าทำการล่อซื้อยาบ้าทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 2062/2549 วันที่ 6 พ.ย.2549 ข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด ข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ข้อหาพกพาและมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ยังมีหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 700/2547 อีกหนึ่งคดีข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2547
พ.ต.อ.พชร กล่าวต่อว่า ตำรวจเฝ้าติดพฤติกรรมอยู่กว่า 1 เดือน จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ขณะกำลังขับรถคันดังกล่าวไปรับลูกที่หน้าโรงเรียนกฤตสินศึกษา แขวงและเขตประเวศ กทม เมื่อเวลา 16.00 น.ซึ่งเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมผู้ต้องหาพยายามขับรถหลบหนีและพุ่งชนกับเสาคอนกรีตข้างทางทำให้รถได้รับความเสียหาย กระจกหน้าแตก ประตูข้างขวาและกันชนหน้าพังยับ แต่ผู้ต้องหา ลูกและภรรยาที่นั่งมาในรถได้รับความปลอดภัย จากนั้นจึงนำตัวไปค้นห้องพักศรีนครินทร์คอนโดเพลส ย่านอ่อนนุช จึงพบยาบ้าจำนวน 1,855 เม็ด และอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสีน้ำตาลวางอยู่บนหัวเตียงนอน โดยยาบ้าจะนั้นผู้ต้องหาจะหุ้มด้วยกระดาษชุบไขเพื่อไม่ให้สุนัขตำรวจดมกลิ่นได้ ส่วนเงินสด 407,000 บาทนั้นซุกซ่อนอยู่ในลิ้นชักหัวเตียง ซึ่งตำรวจสามารถยึดเงินกลางได้จำนวนมากนั้นเพราะวันนี้ผู้ต้องหาเพิ่งกลับจากนำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้าจึงนำเงินที่ได้ทั้งหมดมาเก็บไว้ที่ห้องพัก
ขณะที่นายชุมพล ให้การรับสารรับภารว่ารับยาบ้ามาจากเพื่อน โดยนัดหมายกันที่ห้างบิ๊กซี สาขาบางนา ครั้งละ 1 มัด จำนวน 2,000 เม็ด จากนั้นจึงนำมาจำหน่ายให้ลูกค้าย่านประเวศและพระโขนงในราคาเม็ดละ 150 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเลิกค้ายาบ้าไปครั้งหนึ่งแล้ว กระทั่งกลับมาจำหน่ายอีกครั้ง ขณะเกิดเหตุเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมตัวก็พยายามขับรถหลบหนีแต่ก็จวนตัวและหนีไม่รอด
เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 โดยผิดกฎหมาย พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน มีอาวะปืนไว้ในครองครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย