กองพิสูจน์หลักฐาน ควงเจ้าหน้าที่วิศวกรรมลงตรวจ “ซานติก้า” อีกรอบ ระบุ ผับไม่มีระบบป้องกันอัคคีภัย-ประตูทางออกแคบ อีกทั้งสถานที่มีวัสดุติดไฟง่ายอยู่มาก ด้าน “ดีเจภูมิ” เข้าให้ปากคำ ยันสาเหตุเพลิงไหม้น่ามาจาก “เปเปอร์ชู้ต” อย่างแน่นอน เผย เตือนทีมงานถึงอุปกรณ์ดังกล่าวแล้วว่าไม่เหมาะเอาเข้ามาเล่นในผับ วอนผู้ใหญ่บรรจุหลักสูตรวิธีเอาตัวรอด
วันนี้ (5 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่จากสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วศท.) และเจ้าหน้าที่โยธา สำนักงานเขตวัฒนา เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุซานติก้าผับอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสูบน้ำที่ขังอยู่ออกจนหมด จากนั้นได้เริ่มเข้าตรวจภายในผับทันที
นายพิชญะ จันทรานุวัฒน์ ประธานอนุกรรมการมาตรฐานความปลอดภัยอาคาร วศท.เปิดเผยว่า จากการเข้าตรวจสอบภายในบริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่า ภายในผับไม่มีระบบป้องกันอัคคีภัยเลย ไม่ว่าจะเป็นไฟฉุกเฉิน ป้ายบอกทางหนีไฟ แต่ทั้งนี้ ก็อาจจะถูกไฟเผากลายเป็นซากไปก็ได้ และยังพบว่าภายในอาคารมีเนื้อที่อยู่ประมาณ 400 ตารางเมตร ซึ่งไม่น่าจะรองรับคนได้เกิน 400 คน สำหรับทางออกของผับนั้น จากการตรวจสอบ พบว่า มีทางออกทั้งหมด 3 ทางด้วยกัน ซึ่งเชื่อว่า หากมีคนอยู่ไม่เกิน 400 คน รวมทั้งหากมีสปริงเกอร์ ไฟฉุกเฉิน ป้ายบอกทางหนีไฟที่ชัดเจน ก็ไม่น่าจะมีผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประตูทางออกหลัก พบว่า มีความกว้าง 2 เมตร 18 เซนติเมตร ซึ่งหากเกิดเหตุเพลิงไหม้ คนที่อยู่ภายในก็จะพากันกรูออกมาทางประตูหลัก ซึ่งจากการคำนวณก็ไม่น่าจะรับได้เกิน 200 คนเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็ต้องหากทางออกอื่นเอา
นายพิชญะ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบโดยรอบบริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่า อาคารของผับนั้นมีวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงอยู่ภายในเยอะมากกว่าที่คาดไว้ตั้งแต่แรก มีทั้งไฟเบอร์กลาส เรซิน พลาสติกที่สามารถติดไฟได้ง่ายมาก นอกจากนี้ ยังมีโพลีสไตรีนโฟมที่บุเป็นผนังของผับ ซึ่งหากติดไฟแล้วเกิดควันขึ้นมา ควันนั้นก็จะกลายเป็นก๊าซพิษ ซึ่งหากสูดดมเข้าไปแล้วก็อาจจะทำให้หมดสติไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
หลังจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานใช้เวลาในการตรวจสอบจุดเกิดเหตุประมาณ 2 ชั่วโมง จนถึงเวลา 16.00 น.พ.ต.อ.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข รอง ผบก.พฐ.เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เชิญหน่วยงานเจ้าหน้าที่จากสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วศท.) สถาปนิกสยาม เจ้าหน้าที่โยธา สำนักงานเขตวัฒนา และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาร่วมตรวจสอบจุดเกิดเหตุในส่วนของโครงสร้างด้านหลังอาคาร และบริเวณเวทีที่เป็นจุดเกิดเหตุเพื่อหาชิ้นส่วนที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งคาดว่า น่าจะมาจากชิ้นส่วนจุดชนวนเอฟเฟกต์ หรือวัสดุตกแต่งภายในร้าน และตรวจสอบร่องรอยของเพลิงไหม้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่าเป็นต้นเหตุของเพลิงไหม้ โดยในวันพรุ่งนี้จะเดินทางเข้าตรวจสอบใหม่อีกครั้ง เนื่องจากยังมีพื้นที่ที่จะต้องตรวจสอบอีกจำนวนมาก รวมทั้งจะต้องตรวจสอบในส่วนของบัญชีการจัดซื้อจัดจ้างในส่วนของทีมทำเอฟเฟกต์ของผับอีกด้วย
สำหรับบรรยากาศที่บริเวณซานติก้าผับ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ ได้มีญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ทยอยกันเดินทางมานำอาหารและเครื่องเซ่นไหว้มาวางไว้ที่เต็นท์ด้านหน้ากันตลอดทั้งวัน โดยในช่วงเช้าญาติของ น.ส.นงลักษณ์ อาจนนลา อายุ 27 ปี ได้นำศพของ น.ส.นงลักษณ์ พร้อมเครื่องเซ่นไหว้ใส่รถตู้มาทำพิธีเรียกวิญญาณกลับบ้าน ส่วนในช่วงบ่าย ญาติของ นายทิวากร ปิณฑะบุตร ได้นำเครื่องเซ่นไหว้พร้อมรูปของนายทิวากร มาทำพิธีเรียกวิญญาณกลับบ้านเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกัน ที่ สน.ทองหล่อ เวลา 15.00 น.นายภูมิใจ ตั้งสง่า หรือ ดีเจภูมิ พีธีกรบนเวทีในคืนเกิดเหตุ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 หัวหน้าพนักงานสอบสวน โดย ดีเจภูมิ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเชื่อว่า สาเหตุน่าจะมาจากอุปกรณ์เปเปอร์ชู้ตอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ ได้มีทีมงานส่วนหนึ่งมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อจะสร้างความบันเทิงแก่ลูกค้าภายในร้าน แต่ตนได้บอกกับทีมงาน ว่า อุปกรณ์ดังกล่าวไม่เหมาะแก่การมายิงในสถานที่ที่มีคนอยู่จำนวนมาก เนื่องจากอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้
ทั้งนี้ ก่อนเวลาเที่ยงคืน กลุ่มลูกค้าได้มีการจุดไฟเย็น เพื่อต้อนรับการเข้าสู่ปีใหม่ แต่หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที ก็มีการยิงเปเปอร์ชู้ตขึ้นบนเพดาน ซึ่งเปเปอร์ชู้ตมีลักษณะเป็นเปลวกระดาษที่ลอยออกมาจำนวนมาก แต่แรงอัดของอุปกรณ์อาจจะมีแรงอัดมาก จึงทำให้กระดาษไปติดที่ไฟสปอตไลต์ที่อยู่ด้านบน อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดควันและเปลวไฟได้ ซึ่งเปเปอร์ชู้ตมีคุณสมบัติในการติดไฟช้า เพราะใช้เวลากว่า 20 นาที จึงทำให้ไฟลุกลามอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้โคมไฟสปอตไลต์ที่อยู่บนเพดานร่วงหล่นลงมา และทำให้ไฟฟ้าดับ
ดีเจภูมิ กล่าวอีกว่า ซานติก้าผับ เป็นร้านที่ค่อนข้างโปร่ง เพดานสูง จึงไม่ได้เกิดจากการจุดพลุอย่างแน่นอน เชื่อว่า น่าจะเกิดจากการจุดเปเปอร์ชู้ตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ก็สามารถทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ โดยตอนที่ตนยืนเล่นเกมกับดีเจเพชรจ้า บนเวที ก็ได้โฟนอินเข้ารายงานสดที่ตนเป็นดีเจอยู่ บอกแฟนรายการว่า ใครว่างให้มาที่ซานติก้าผับ เพื่อเลี้ยงอำลาก่อนมีการปิดตัวในงาน “กู๊ดบาย ซานติก้า” ซึ่งเชื่อว่า บางคนที่มาในงานก็มาตามเสียงชักชวนของตน จึงทำให้รู้สึกเสียใจมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระหว่างเกิดเหตุตนอยู่ด้านหลังของเวที จากนั้นมีพนักงานเข้ามาบอกตนว่าเกิดเพลิงไหม้ ตนจึงใช้ประตูสำหรับศิลปินวิ่งออกมาด้านนอก ซึ่งขณะนั้นไม่ทันมองว่ามีใครเป็นอย่างไรบ้าง แต่เชื่อว่า เหตุการณ์นี้น่าจะมีคนเสียชีวิตหลายศพอย่างแน่นอน
“ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะเข้ามาให้ปากคำตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.แต่ทางครอบครัวให้คำปรึกษาว่าน่าจะรอให้ทางตำรวจเชิญมาให้ปากคำจะดีกว่า วันนี้จึงเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้ ผม และ ดีเจเพชรจ้า ได้ไปทำบุญโลงศพเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต ซึ่งหลังเหตุการณ์นี้จึงทราบว่า มีน้องคนหนึ่งชื่อ เอเธอร์ ซึ่งผมได้เชิญขึ้นมาเล่นเกมบนเวทีและรู้จักกันในงาน ได้พูดคุยกับน้องคนนี้ ซึ่งต่อมาทราบว่าเคยมาช่วยงานในบริษัทของแม่ผม เช้าวันรุ่งขึ้นก็ทราบว่าน้องได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ด้วย ทำให้รู้สึกแย่มาก โดยวันนี้จะไปร่วมงานศพของน้องเอเธอร์ด้วย จากนี้ผมและดีเจเพชรจ้าจะมีการจัดงานทำบุญ 9 วัด ร่วมกับแฟนรายการ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตด้วย” ดีเจภูมิ กล่าว และว่า “สุดท้ายอยากฝากให้ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องให้บรรจุหลักสูตรสอนให้เด็กทุกคนทุกโรงเรียน พนักงานบริษัททุกแห่ง ให้รู้จักวิธีการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ หรือเหตุการณ์ในลักษณะนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือตัวเองในเบื้องต้น”
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตลอดทั้งวันที่ สน.ทองหล่อ ได้มีญาติของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ทยอยกันเดินทางมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน โดยญาติผู้เสียชีวิตบางรายเมื่อเห็นทรัพย์สินของเหยื่อของเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ก็ถึงกับร่ำไห้
วันนี้ (5 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่จากสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วศท.) และเจ้าหน้าที่โยธา สำนักงานเขตวัฒนา เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุซานติก้าผับอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสูบน้ำที่ขังอยู่ออกจนหมด จากนั้นได้เริ่มเข้าตรวจภายในผับทันที
นายพิชญะ จันทรานุวัฒน์ ประธานอนุกรรมการมาตรฐานความปลอดภัยอาคาร วศท.เปิดเผยว่า จากการเข้าตรวจสอบภายในบริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่า ภายในผับไม่มีระบบป้องกันอัคคีภัยเลย ไม่ว่าจะเป็นไฟฉุกเฉิน ป้ายบอกทางหนีไฟ แต่ทั้งนี้ ก็อาจจะถูกไฟเผากลายเป็นซากไปก็ได้ และยังพบว่าภายในอาคารมีเนื้อที่อยู่ประมาณ 400 ตารางเมตร ซึ่งไม่น่าจะรองรับคนได้เกิน 400 คน สำหรับทางออกของผับนั้น จากการตรวจสอบ พบว่า มีทางออกทั้งหมด 3 ทางด้วยกัน ซึ่งเชื่อว่า หากมีคนอยู่ไม่เกิน 400 คน รวมทั้งหากมีสปริงเกอร์ ไฟฉุกเฉิน ป้ายบอกทางหนีไฟที่ชัดเจน ก็ไม่น่าจะมีผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประตูทางออกหลัก พบว่า มีความกว้าง 2 เมตร 18 เซนติเมตร ซึ่งหากเกิดเหตุเพลิงไหม้ คนที่อยู่ภายในก็จะพากันกรูออกมาทางประตูหลัก ซึ่งจากการคำนวณก็ไม่น่าจะรับได้เกิน 200 คนเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็ต้องหากทางออกอื่นเอา
นายพิชญะ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบโดยรอบบริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่า อาคารของผับนั้นมีวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงอยู่ภายในเยอะมากกว่าที่คาดไว้ตั้งแต่แรก มีทั้งไฟเบอร์กลาส เรซิน พลาสติกที่สามารถติดไฟได้ง่ายมาก นอกจากนี้ ยังมีโพลีสไตรีนโฟมที่บุเป็นผนังของผับ ซึ่งหากติดไฟแล้วเกิดควันขึ้นมา ควันนั้นก็จะกลายเป็นก๊าซพิษ ซึ่งหากสูดดมเข้าไปแล้วก็อาจจะทำให้หมดสติไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
หลังจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานใช้เวลาในการตรวจสอบจุดเกิดเหตุประมาณ 2 ชั่วโมง จนถึงเวลา 16.00 น.พ.ต.อ.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข รอง ผบก.พฐ.เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เชิญหน่วยงานเจ้าหน้าที่จากสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วศท.) สถาปนิกสยาม เจ้าหน้าที่โยธา สำนักงานเขตวัฒนา และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาร่วมตรวจสอบจุดเกิดเหตุในส่วนของโครงสร้างด้านหลังอาคาร และบริเวณเวทีที่เป็นจุดเกิดเหตุเพื่อหาชิ้นส่วนที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งคาดว่า น่าจะมาจากชิ้นส่วนจุดชนวนเอฟเฟกต์ หรือวัสดุตกแต่งภายในร้าน และตรวจสอบร่องรอยของเพลิงไหม้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่าเป็นต้นเหตุของเพลิงไหม้ โดยในวันพรุ่งนี้จะเดินทางเข้าตรวจสอบใหม่อีกครั้ง เนื่องจากยังมีพื้นที่ที่จะต้องตรวจสอบอีกจำนวนมาก รวมทั้งจะต้องตรวจสอบในส่วนของบัญชีการจัดซื้อจัดจ้างในส่วนของทีมทำเอฟเฟกต์ของผับอีกด้วย
สำหรับบรรยากาศที่บริเวณซานติก้าผับ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ ได้มีญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ทยอยกันเดินทางมานำอาหารและเครื่องเซ่นไหว้มาวางไว้ที่เต็นท์ด้านหน้ากันตลอดทั้งวัน โดยในช่วงเช้าญาติของ น.ส.นงลักษณ์ อาจนนลา อายุ 27 ปี ได้นำศพของ น.ส.นงลักษณ์ พร้อมเครื่องเซ่นไหว้ใส่รถตู้มาทำพิธีเรียกวิญญาณกลับบ้าน ส่วนในช่วงบ่าย ญาติของ นายทิวากร ปิณฑะบุตร ได้นำเครื่องเซ่นไหว้พร้อมรูปของนายทิวากร มาทำพิธีเรียกวิญญาณกลับบ้านเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกัน ที่ สน.ทองหล่อ เวลา 15.00 น.นายภูมิใจ ตั้งสง่า หรือ ดีเจภูมิ พีธีกรบนเวทีในคืนเกิดเหตุ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบก.น.5 หัวหน้าพนักงานสอบสวน โดย ดีเจภูมิ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเชื่อว่า สาเหตุน่าจะมาจากอุปกรณ์เปเปอร์ชู้ตอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ ได้มีทีมงานส่วนหนึ่งมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อจะสร้างความบันเทิงแก่ลูกค้าภายในร้าน แต่ตนได้บอกกับทีมงาน ว่า อุปกรณ์ดังกล่าวไม่เหมาะแก่การมายิงในสถานที่ที่มีคนอยู่จำนวนมาก เนื่องจากอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้
ทั้งนี้ ก่อนเวลาเที่ยงคืน กลุ่มลูกค้าได้มีการจุดไฟเย็น เพื่อต้อนรับการเข้าสู่ปีใหม่ แต่หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที ก็มีการยิงเปเปอร์ชู้ตขึ้นบนเพดาน ซึ่งเปเปอร์ชู้ตมีลักษณะเป็นเปลวกระดาษที่ลอยออกมาจำนวนมาก แต่แรงอัดของอุปกรณ์อาจจะมีแรงอัดมาก จึงทำให้กระดาษไปติดที่ไฟสปอตไลต์ที่อยู่ด้านบน อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดควันและเปลวไฟได้ ซึ่งเปเปอร์ชู้ตมีคุณสมบัติในการติดไฟช้า เพราะใช้เวลากว่า 20 นาที จึงทำให้ไฟลุกลามอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้โคมไฟสปอตไลต์ที่อยู่บนเพดานร่วงหล่นลงมา และทำให้ไฟฟ้าดับ
ดีเจภูมิ กล่าวอีกว่า ซานติก้าผับ เป็นร้านที่ค่อนข้างโปร่ง เพดานสูง จึงไม่ได้เกิดจากการจุดพลุอย่างแน่นอน เชื่อว่า น่าจะเกิดจากการจุดเปเปอร์ชู้ตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ก็สามารถทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ โดยตอนที่ตนยืนเล่นเกมกับดีเจเพชรจ้า บนเวที ก็ได้โฟนอินเข้ารายงานสดที่ตนเป็นดีเจอยู่ บอกแฟนรายการว่า ใครว่างให้มาที่ซานติก้าผับ เพื่อเลี้ยงอำลาก่อนมีการปิดตัวในงาน “กู๊ดบาย ซานติก้า” ซึ่งเชื่อว่า บางคนที่มาในงานก็มาตามเสียงชักชวนของตน จึงทำให้รู้สึกเสียใจมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระหว่างเกิดเหตุตนอยู่ด้านหลังของเวที จากนั้นมีพนักงานเข้ามาบอกตนว่าเกิดเพลิงไหม้ ตนจึงใช้ประตูสำหรับศิลปินวิ่งออกมาด้านนอก ซึ่งขณะนั้นไม่ทันมองว่ามีใครเป็นอย่างไรบ้าง แต่เชื่อว่า เหตุการณ์นี้น่าจะมีคนเสียชีวิตหลายศพอย่างแน่นอน
“ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะเข้ามาให้ปากคำตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.แต่ทางครอบครัวให้คำปรึกษาว่าน่าจะรอให้ทางตำรวจเชิญมาให้ปากคำจะดีกว่า วันนี้จึงเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้ ผม และ ดีเจเพชรจ้า ได้ไปทำบุญโลงศพเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต ซึ่งหลังเหตุการณ์นี้จึงทราบว่า มีน้องคนหนึ่งชื่อ เอเธอร์ ซึ่งผมได้เชิญขึ้นมาเล่นเกมบนเวทีและรู้จักกันในงาน ได้พูดคุยกับน้องคนนี้ ซึ่งต่อมาทราบว่าเคยมาช่วยงานในบริษัทของแม่ผม เช้าวันรุ่งขึ้นก็ทราบว่าน้องได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ด้วย ทำให้รู้สึกแย่มาก โดยวันนี้จะไปร่วมงานศพของน้องเอเธอร์ด้วย จากนี้ผมและดีเจเพชรจ้าจะมีการจัดงานทำบุญ 9 วัด ร่วมกับแฟนรายการ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตด้วย” ดีเจภูมิ กล่าว และว่า “สุดท้ายอยากฝากให้ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องให้บรรจุหลักสูตรสอนให้เด็กทุกคนทุกโรงเรียน พนักงานบริษัททุกแห่ง ให้รู้จักวิธีการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ หรือเหตุการณ์ในลักษณะนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือตัวเองในเบื้องต้น”
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตลอดทั้งวันที่ สน.ทองหล่อ ได้มีญาติของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ทยอยกันเดินทางมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน โดยญาติผู้เสียชีวิตบางรายเมื่อเห็นทรัพย์สินของเหยื่อของเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ก็ถึงกับร่ำไห้
