ตำรวจพลับพลาไชย 2 จับหนุ่มใหญ่ตระเวนมอมยารูดทรัพย์ ทำทีเข้าไปตีสนิทเหยื่อที่เป็นชายสูงวัยในร้านอาหาร แล้วเสนอขายยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศให้ หากเหยื่อหลวงเชื่อก็จะเอายานอนหลับชนิดแรงผสมกับเบียร์ให้เหยื่อกิน พอเหยื่อออกอาการเบลอก็จะรูดทรัพย์สินในตัวไปหมด เผยก่อเหตุมาแล้วโชกโชนนับครั้งไม่ถ้วน จนเหยื่อต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมาหลายราย
เมื่อเวลา 19.00 น.วานนี้ (25 ธ.ค.) ที่สน.พลับพลาไชย 2 พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6 พ.ต.อ.ธีระพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 พ.ต.ท.ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.สุรวิทย์ โยนจอหอ สว.สส.สน.พลับพลาไชย 2 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายมนัส พงษ์ไพบูลย์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 2 ต.เขาดิน อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ โดยจับกุมได้ที่บริเวณทางเท้าหน้าร้านพลับพลาไชยโฟโต้ ถนนพลับพลาไชย แขวงป้อมปราบและป้อมปราบศัตรูพ่าย เวลา 23.40 น.วันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากขณะที่ พ.ต.ท.ฐานุพงศ์ แสงซื่อ สวป.สน.พลับพลาไชย 2 กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ก็ได้รับแจ้งจากพนักงานร้านข้าวต้มเจ๊สวย ตั้งอยู่หน้าร้านพลับพลาไชยโฟโต้ ว่าผู้ต้องหาได้ทำทีเข้ามาตีสนิทขอนั่งกินข้าวต้มร่วมกับนายอุทัย นันทนาสฤษณ์ อายุ 70 ปี ลูกค้าของร้าน หลังจากนั้นนายอุทัยก็เริ่มมีอาการมึนศีรษะใกล้หมดสติคล้ายคนถูกมอมยา ก่อนที่ผู้ต้องหาจะเข้ามามาปลดเอาทรัพย์สินของนายอุทัยแล้วพยายามจะนำนายอุทัยขึ้นรถสามล้อรับจ้างออกจากร้านไป หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงรีบรุดไปตรวจสอบทันที
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวต่อว่า เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ก็แสดงตัวเข้าตรวจค้นตัวนายมนัสก็พบทรัพย์สินของผู้เสียหาย คือ แหวนทองคำฝังหัวหยก 1 วง ราคาประมาณ 15,000 บาท ซุกซ่อนอยู่ภายในกางเกงใน และพบยาเม็ดสีชมพูรูปวงรี ซึ่งตรวจสอบภายหลังพบว่าเป็นยานอนหลับชนิดแรงที่ออกฤทธิ์รวดเร็ว หากกินเข้าไปจำนวนมากอาจทำให้เสียชีวิตได้ทันที บรรจุอยู่ในกล่องยาอมระงับกลิ่นปาก จำนวน 16 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านซ้าย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม
ด้าน พ.ต.อ.ธีระพงษ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนนายมนัสยังให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าตัวเองชื่อนิตย์ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 52 ปี แต่จากการตรวจสอบแล้วพบว่าชื่อดังกล่าวเป็นชื่อของพี่ชายนายมนัส ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของนายมันสพบว่าเคยถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์และชิงทรัพย์ลักษณะมอมยาในท้องที่ต่างๆ มาแล้ว 11 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2521-2542 พอพ้นโทษออกมาก็ยังไม่เลิกพฤติกรรมแบบเดิม โดยก่อนถูกจับกุมไม่กี่ชัวโมงก็เพิ่งจะก่อเหตุมอมยาชิงทรัพย์นายอริณรัฐ ม่วงปะไพ อายุ 48 ปี ที่ร้าน 13 เหรียญ สาขาห้างพาต้าปิ่นเกล้า ในท้องที่สน.บางยี่ขัน โดยผู้เสียหายกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช
“พฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้จะทำทีเข้าไปตีสนิทเหยื่อ และจะเลือกเฉพาะผู้ชายสูงอายุและมาคนเดียวเท่านั้น จากนั้นผู้ต้องหาจะออกอุบายหลอกเหยื่อว่ายานอนหลับดังกล่าวเป็นยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็จะนำยาดังกล่าวผสมกับน้ำอัดลมหรือเบียร์ที่นำมาเองให้ดื่ม เมื่อเหยื่อมีอาการเบลอ ผู้ต้องหาสั่งให้ทำอะไร เหยื่อก็จะทำตามหมดทุกอย่าง ซึ่งขณะนี้นายอุทัย ยังคงให้การไม่ได้ เนื่องจากเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหัวเฉียว แต่ญาตินายอุทัยก็ได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าทรัพย์สินที่ยึดคืนมาได้จากตัวผู้ต้องหานั้นเป็นของนายอุทัยอย่างแน่นอน” พ.ต.อ.ธีระพงษ์ กล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ลักษณะมอมยา ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ทั้งนี้หากผู้เสียหายรายใดที่ เคยถูกนายมนัส ชิงทรัพย์ในลักษณะดังกล่าว สามารถเดินทางมาดูตัวหรือดูรูปถ่ายนายมนัสได้ที่ สน.พลับพลาไชย 2
