ตำรวจแนะผู้ที่ครอบครองแบงก์ปลอมอีกต่อหนึ่งโดยเพิ่งมารู้ว่าไม่ใช่แบงก์จริง จากกลุ่มมิจฉาชีพสามารถแจ้งความเอาผิดได้ทันที ไม่ควรนำไปใช้ต่อ แนะให้ฉีกทิ้ง ขณะที่ได้เร่งปราบแหล่งผลิตแบงก์ปลอมที่พบระบาดหนักในพื้นที่ภาคเหนือ-อีสาน พร้อมห่วงเกรงมีการนำธนบัตรปลอมใช้จ่ายทางด่วน เพื่อให้ได้รับเงินทอนจำนวนมาก
วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่มีธนบัตรปลอมแพร่ระบาด โดยล่าสุดมีพบการนำไปใช้ที่ จ.สมุทรสาคร ว่าธนบัตรปลอมที่พบใน จ.สมุทรสาคร เป็นเพียงการนำธนบัตรจริงไปถ่ายเอกสารซึ่งตรวจสอบได้ง่าย ต่างกับการผลิตธนบัตรปลอมขึ้นมา ซึ่งยังไม่ทราบว่าผลิตมาจากแหล่งใด แต่พบว่าแพร่ระบาดมาจากทางภาคเหนือและอีสาน ซึ่งตำรวจได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบหาแหล่งผลิตแล้ว
ส่วนกรณีที่พ่อค้าแม่ค้าไม่รับธนบัตรใบละ 1,000 บาท เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นธนบัตรปลอมนั้น พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า ตำรวจไม่สามารจับกุมได้เนื่องจากไม่มีกฎหมายเอาผิดในเรื่องนี้ และตำรวจต้องดูเจตนาเพราะมีการแพร่ระบาดธนบัตรปลอมพ่อค้าแม่ค้าต้องระมัดระวัง เพราะกว่าจะทำงานหาเงินได้แต่เมื่อถูกลูกค้านำธนบัตรปลอมมาซื้อกำไรที่ได้ก็หายไปหมด จึงต้องป้องกันโดยการไม่รับเลย ก็คงว่าอะไรไม่ได้ต้องดูเจตนาเป็นหลัก ต้องดูเป็นรายไปและสิ่งที่เป็นห่วงคือการนำธนบัตรปลอมมาจ่ายค่าทางด่วนซึ่งจะได้รับเงินทอนจำนวนมากและมีเวลาน้อยในการตรวจสอบ
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนที่ได้รับธนบัตรปลอมมาแล้วนำไปใช้อีกต่อหนึ่งแล้วถูกแจ้งจับ ก็ไม่ใช่ว่าจะติดคุกในทันที เพราะสามารถพิสูจน์ว่าได้รับมาโดยรู้เท่าไม่ถึงการ ตำรวจก็จะดำเนินคดีเฉพาะผู้ผลิต และผู้ที่รู้ว่าเป็นธนบัตรปลอมเท่านั้น ซึ่งพบว่าจะถูกนำมาขายใบละ 400 บาท เมื่อมีเจตนานำมาใช้ก็จะมีความผิดตาม ป.อาญามาตรา 244 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-15 ปี และปรับต่างหาก จึงเตือนผู้ผลิตและนำมาใช้เพราะไม่คุ้ม ซึ่งผู้ที่ได้รับธนบัตรปลอมมาก็ขอให้แจ้งตำรวจโดยทันทีและอย่านำไปใช้ ให้ฉีกทิ้งไปเลย
