ศาลตัดสินจำคุก 3 หนุ่มไทย 1 พม่า ตลอดชีวิต ร่วมกันมียาบ้าไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย 2 หมื่นกว่าเม็ด จำเลยที่ 3-4 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือลดโทษ 28 ปี 2 เดือน และ 50 ปี ตามลำดับ ส่วนจำเลยที่ 1-2 โดนอ่วมสุดคุกตลอดชีวิต
วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 810 ศาลอาญา ศาลมีคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพัฒพงษ์ เกิดขุมทอง อายุ 34 ปี, นายชัยวัฒน์ ประทุมทิพย์ อายุ 26 ปี บริษัท ทีแอนด์ที เอ็กซ์เพรส เวิลด์ไวด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับส่งพัสดุ, นายซาย ยี่ อายุ 34 ปี ชาวพม่า และ นายวิสิษฐ์ แตงโต อายุ 36 ปี เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐาน ร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522, ปลอมและใช้เอกสารบัตรประจำตัว และความผิดตาม พ.ร.บ.ต่างด้าว ตามฟ้องโจทก์ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า
เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2550 จำเลยทั้งสี่ร่วมกันกระทำความผิด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.2 สืบทราบว่าจะมีการส่งมอบยาเสพติด ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงนำกำลังไปจับกุม โดยเวลาประมาณ 13.00 น. จำเลยที่ 1-2 ขับรถตู้ของกลางซึ่งเป็นของบริษัท ทีแอนด์ที ไปจอดในห้างดังกล่าว ก่อนที่จำเลยที่ 4 จะเข้าไปขับรถตู้ไปจอดไว้ที่ห้างคาร์ฟูร์ สาขารัตนาธิเบศร์ แล้วนำยาบ้าจำนวน 24,000 เม็ด ใส่ไว้ในรถ จากนั้นจำเลยที่ 1-2 ได้นั่งรถแท็กซี่ ตามเข้าไปรับรถตู้แล้วขับออกจากห้างคาร์ฟูร์ทันที เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปจับกุมจำเลยที่ 1-2 ไว้ ขณะที่จำเลยที่ 4 ซึ่งแยกตัวออกมา ได้นำยาเสพติดใส่กระเป๋าเดินกลับมายังห้างโรบินสัน เพื่อไป ส่งให้ยาเสพติดให้กับจำเลยที่ 3 เจ้าหน้าที่จึงจับกุมจำเลยที่ 3-4 พร้อมของยาบ้าของกลางอีก 30,000 เม็ด
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์มีพยานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.จับกุมเบิกความสอดคล้องกันถึงขั้นตอนการจับกุมจำเลยทั้งหมด จนได้ของกลางยาเสพติดจำนวนมาก ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรงตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด พยานโจทก์ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน จึงไม่มีเหตุเบิกความปรักปรำให้จำเลยได้รับโทษทางอาญา ประกอบกับ จำเลยที่ 3-4 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน พยานโจทก์มีน้ำหนักรับฟังได้อย่างมั่นคงว่า จำเลยที่ 4 ร่วมกันกระทำความผิดตามฟ้อง
พิพากษาว่าจำเลยทั้ง 4 กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ ให้จำคุกจำเลยทั้งหมดตลอดชีวิต ปรับจำเลยที่ 1-2 คนละ 4 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่ 3 -4 ปรับคนละ 3 ล้านบาท คำให้การรับสารภาพของจำเลยที่ 3-4 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 25 ปี ปรับ 1.5 ล้านบาท แต่จำเลยที่ 3 ยังมีความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอมให้จำคุก 6 ปี ความผิดตาม พ.ร.บ.ต่างด้าว จำคุกอีก 4 เดือน คำให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 ปี และ พ.ร.บ.ต่างด้าวจำคุก 2 เดือน รวมโทษจำคุกจำเลยที่ 3 ไว้เป็นเวลา 28 ปี 2 เดือน ปรับ 1.5 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่ 4 ยังมีความผิดฐานมียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอีกให้ลงโทษจำคุก 25 ปี ปรับ 2 ล้านบาท รวมจำคุกจำเลยที่ 4 เป็นเวลา 50 ปี ปรับ 3.5 ล้านบาท