มือปืนไปดักซุ่มรอเหยื่อ แล้วลั่นไกสังหารเพียงนัดเดียวยังไม่ตายคาที่ แต่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยเหยื่อเป็นอดีตผู้สร้างภาพยนตร์ “มนต์รักลูกทุ่ง” ตำรวจเชื่อ ปมขัดแย้งทางธุรกิจที่กำลังมีเรื่องฟ้องร้องกันอยู่ หรือมูลเหตุเรื่องชู้สาว
วันนี้ (11 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.น.ส.ชุติมา วิจิตรจินดา อายุ 41 ปี บุตรสาว นายประสิทธิ์ วิจิตรจินดา อายุ 69 ปี พร้อมญาติ เดินทางไปยังโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อรอรับศพ นายประสิทธิ์ ภายหลังจากที่ นายประสิทธิ์ ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตวานนี้ (10 ต.ค.) โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.30 น.พ.ต.ท.สมชาย เอื้อทยา พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.สามเสน รับแจ้งมีเหตุชายถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 253 ซอยสามเสน 28 ซอยย่อยองครักษ์ 9 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ต.สมพงษ์ วงศ์หอม สว.สส.สน.สามเสน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพณิชย์สูง 4 ชั้น เจ้าหน้าที่พบเพียงกองเลือด และปลอกกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 1 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่าถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ทราบชื่อต่อมาคือ นายประสิทธิ์ วิจิตรจินดา อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/16 หมู่ 9 แขวงและเขตตลิ่งชัน ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง มนต์รักลูกทุ่ง ถูกยิงเข้าที่บริเวณท้ายทอยทะลุขมับขวา 1 นัด อาการสาหัส ก่อนที่เจ้าตัวจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตลงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
น.ส.ชุติมา บุตรสาวผู้ตาย เปิดเผยว่า เป็นลูกสาวคนที่ 2 จากทั้งหมด 4 คนของผู้ตาย โดยก่อนหน้านี้ บิดาแต่งงานอยู่กินกับ นางเพิ่มพูน พลเพชร มารดาตน โดยทั้งคู่มีอาชีพพากย์หนังในชื่อบริษัท ประสาทชัยเพิ่มพูน ก่อนที่ทั้งคู่จะหย่าร้างกันมาได้ 10 กว่าปี ก่อนที่บิดาจะมาอยู่กินกับ นางวรรณา พูลสุขโข อายุ 51 ปี และพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านในซอยบรมราชชนนี 44 และทำธุรกิจเปิดร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อยู่ที่ห้างฟอร์จูน
น.ส.ชุติมา กล่าวต่อว่า ปกติบิดาจะมาที่บ้านหลังเกิดเหตุอยู่เป็นประจำทุกวัน ในช่วงเวลา 23.00 น.และจะกลับบ้านในช่วง 01.00 น.โดยเมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 23.30 น.ขณะที่นั่งทำงานอยู่ชั้นล่างของบ้าน บิดาก็เดินทางมาที่บ้านตามปกติ แต่ขณะบิดากำลังเปิดประตูบ้าน ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงรีบออกไปดูก็พบว่า บิดาถูกยิงล้มลงแล้ว จึงรีบพาส่งโรงพยาบาล
“ก่อนหน้านี้ เคยมีลูกน้องของนายตำรวจยศ พ.ต.ต.ผู้หนึ่ง มาขู่ฆ่าพ่อไว้ ซึ่งหลังจากนั้นมา พ่อก็ระมัดระวังตัวมาโดยตลอด จนกระทั่งมาเกิดเหตุขึ้น” น.ส.ชุติมา กล่าว
ด้าน นางวรรณา พูลสุขโข ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่สามีถูกยิงครั้งนี้ ไม่น่าจะมาจากเรื่องชู้สาว แต่อาจจะมาจากที่เมื่อประมาณ 6 ปีที่ผ่านมา มีผู้หญิงที่รู้จักกับสามีคนหนึ่ง ซึ่งเปิดร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ด้วยกันอยู่ที่ชั้น 3 ของห้างฟอร์จูน มาเสนอเซ้งร้านขายอุปกรณ์ที่ชั้น 4 ของห้างในราคา 3 แสนบาท รวมค่าตกแต่งด้วยเป็นเงินประมาณ 1 ล้านบาทเศษ และได้ตกลงปากเปล่ากันโดยไม่มีหนังสือสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรแต่อย่างใด แต่หลังจากที่สามีเซ้งร้านมาเปิดกิจการแล้ว การค้าขายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เนื่องจากอยู่โซนด้านหลัง และเมื่อขายไปได้ประมาณ 3 ปี ก็มีผู้ค้ารายใหญ่คนหนึ่งที่เปิดร้านขายอยู่โซนด้านหน้า ต้องการพื้นที่โซนด้านหลังทั้งหมดติดต่อกัน 6-7 ล็อก จึงติดต่อกับทางบริษัท ซีพี เจ้าของห้าง เพื่อขอย้ายสลับโซนกันกับร้านของสามีตนเอง ซึ่งหลังจากนั้น ร้านของสามีตนก็เริ่มค้าขายดีขึ้นมา จนทางผู้หญิงที่เป็นเจ้าของร้านเข้ามาแสดงความต้องการอยากได้ร้านคืน โดยอ้างว่าจะไม่ต่อสัญญาเช่าร้านให้สามีตน ทั้งๆ ที่สามีเซ้งร้านมาแล้ว จึงทำให้มีเรื่องฟ้องร้องกันเมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมา แต่มูลเหตุการสังหารจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ ยังไม่ทราบ
ด้าน พ.ต.อ.สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผกก.สน.สามเสน กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลของคนร้ายแล้ว เนื่องช่วงเกิดเหตุคนร้ายมาดักซุ่มแล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิงผู้ตาย ก่อนจะวิ่งหลบหนีไป ส่วนเรื่องประเด็นการฆ่านั้น ตั้งไว้ที่เรื่องประเด็นความขัดแย้งทางธุรกิจกับเรื่องชู้สาว ส่วนประเด็นอื่นต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
วันนี้ (11 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.น.ส.ชุติมา วิจิตรจินดา อายุ 41 ปี บุตรสาว นายประสิทธิ์ วิจิตรจินดา อายุ 69 ปี พร้อมญาติ เดินทางไปยังโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อรอรับศพ นายประสิทธิ์ ภายหลังจากที่ นายประสิทธิ์ ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตวานนี้ (10 ต.ค.) โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.30 น.พ.ต.ท.สมชาย เอื้อทยา พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.สามเสน รับแจ้งมีเหตุชายถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 253 ซอยสามเสน 28 ซอยย่อยองครักษ์ 9 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ต.สมพงษ์ วงศ์หอม สว.สส.สน.สามเสน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพณิชย์สูง 4 ชั้น เจ้าหน้าที่พบเพียงกองเลือด และปลอกกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 1 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่าถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ทราบชื่อต่อมาคือ นายประสิทธิ์ วิจิตรจินดา อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/16 หมู่ 9 แขวงและเขตตลิ่งชัน ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง มนต์รักลูกทุ่ง ถูกยิงเข้าที่บริเวณท้ายทอยทะลุขมับขวา 1 นัด อาการสาหัส ก่อนที่เจ้าตัวจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตลงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
น.ส.ชุติมา บุตรสาวผู้ตาย เปิดเผยว่า เป็นลูกสาวคนที่ 2 จากทั้งหมด 4 คนของผู้ตาย โดยก่อนหน้านี้ บิดาแต่งงานอยู่กินกับ นางเพิ่มพูน พลเพชร มารดาตน โดยทั้งคู่มีอาชีพพากย์หนังในชื่อบริษัท ประสาทชัยเพิ่มพูน ก่อนที่ทั้งคู่จะหย่าร้างกันมาได้ 10 กว่าปี ก่อนที่บิดาจะมาอยู่กินกับ นางวรรณา พูลสุขโข อายุ 51 ปี และพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านในซอยบรมราชชนนี 44 และทำธุรกิจเปิดร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อยู่ที่ห้างฟอร์จูน
น.ส.ชุติมา กล่าวต่อว่า ปกติบิดาจะมาที่บ้านหลังเกิดเหตุอยู่เป็นประจำทุกวัน ในช่วงเวลา 23.00 น.และจะกลับบ้านในช่วง 01.00 น.โดยเมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 23.30 น.ขณะที่นั่งทำงานอยู่ชั้นล่างของบ้าน บิดาก็เดินทางมาที่บ้านตามปกติ แต่ขณะบิดากำลังเปิดประตูบ้าน ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงรีบออกไปดูก็พบว่า บิดาถูกยิงล้มลงแล้ว จึงรีบพาส่งโรงพยาบาล
“ก่อนหน้านี้ เคยมีลูกน้องของนายตำรวจยศ พ.ต.ต.ผู้หนึ่ง มาขู่ฆ่าพ่อไว้ ซึ่งหลังจากนั้นมา พ่อก็ระมัดระวังตัวมาโดยตลอด จนกระทั่งมาเกิดเหตุขึ้น” น.ส.ชุติมา กล่าว
ด้าน นางวรรณา พูลสุขโข ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่สามีถูกยิงครั้งนี้ ไม่น่าจะมาจากเรื่องชู้สาว แต่อาจจะมาจากที่เมื่อประมาณ 6 ปีที่ผ่านมา มีผู้หญิงที่รู้จักกับสามีคนหนึ่ง ซึ่งเปิดร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ด้วยกันอยู่ที่ชั้น 3 ของห้างฟอร์จูน มาเสนอเซ้งร้านขายอุปกรณ์ที่ชั้น 4 ของห้างในราคา 3 แสนบาท รวมค่าตกแต่งด้วยเป็นเงินประมาณ 1 ล้านบาทเศษ และได้ตกลงปากเปล่ากันโดยไม่มีหนังสือสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรแต่อย่างใด แต่หลังจากที่สามีเซ้งร้านมาเปิดกิจการแล้ว การค้าขายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เนื่องจากอยู่โซนด้านหลัง และเมื่อขายไปได้ประมาณ 3 ปี ก็มีผู้ค้ารายใหญ่คนหนึ่งที่เปิดร้านขายอยู่โซนด้านหน้า ต้องการพื้นที่โซนด้านหลังทั้งหมดติดต่อกัน 6-7 ล็อก จึงติดต่อกับทางบริษัท ซีพี เจ้าของห้าง เพื่อขอย้ายสลับโซนกันกับร้านของสามีตนเอง ซึ่งหลังจากนั้น ร้านของสามีตนก็เริ่มค้าขายดีขึ้นมา จนทางผู้หญิงที่เป็นเจ้าของร้านเข้ามาแสดงความต้องการอยากได้ร้านคืน โดยอ้างว่าจะไม่ต่อสัญญาเช่าร้านให้สามีตน ทั้งๆ ที่สามีเซ้งร้านมาแล้ว จึงทำให้มีเรื่องฟ้องร้องกันเมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมา แต่มูลเหตุการสังหารจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ ยังไม่ทราบ
ด้าน พ.ต.อ.สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผกก.สน.สามเสน กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลของคนร้ายแล้ว เนื่องช่วงเกิดเหตุคนร้ายมาดักซุ่มแล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิงผู้ตาย ก่อนจะวิ่งหลบหนีไป ส่วนเรื่องประเด็นการฆ่านั้น ตั้งไว้ที่เรื่องประเด็นความขัดแย้งทางธุรกิจกับเรื่องชู้สาว ส่วนประเด็นอื่นต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง