กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 สรุปคดีความที่เกิดขึ้นหลังจากที่พันธมิตรฯยึดสนามบินสุวรรณภูมิ
วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) เปิดเผยว่า จากการปฏิบัติงานของศูนย์อำนวยการร่วมการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตำรวจภูธรภาค 1 ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน เป็นต้นมาพบว่า มีคดีอาญาที่เกิดขึ้นจำนวนมาก แยกเป็น คดีพยายามฆ่า 3 ราย คดีทำให้เสียทรัพย์ 1 ราย คดีมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป 1 ราย คดีมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 3 ราย ของกลางประกอบด้วย อาวุธปืน.357 มม.1 กระบอก 9 มม.1 กระบอก 7.65 มม.1 กระบอก ปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด .357 มม.48 นัด ขนาด .38 มม.จำนวน 2 นัด ขนาด 7.65 มม.8 นัด ขนาด 9 มม. จำนวน 44 นัด ลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 5 นัด
ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ยังมีคดีมีวิทยุสื่อสารคมนาคมไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 2 ราย คดีทำร้ายร่างกาย/หน่วงเหนี่ยวกักขัง 1 ราย นอกจากนี้ ตรวจยึดอาวุธและสิ่งของที่ใช้เป็นอาวุธ ประกอบด้วย แป๊บเหล็กดัดแปลงเป็นอาวุธปืน 8 อัน ขวาน 1 เล่มท่อนเหล็ก (กระบอง) 2 อัน มีด 6 เล่มตะปูเรือใบ 27 กิโลกรัม
“ตำรวจที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประกอบกำลังจาก ตำรวจภูธรภาค 1, 2, 3, 4, 7, กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ทหารบก ทหารเรือ อาสาสมัครจากกรมการปกครอง รวมวันละ 4,000 นาย ซึ่งจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ไปจนถึงวันที่ 7 ธันวาคม โดยจะทยอยลดกำลังพลตามความจำเป็นจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนความเสียหายของทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีดังนี้ รถยนต์ส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกทุบทำลายและเจาะยาง 3 คัน รถยนต์ควบคุมผู้ต้องหาถูกลอบยิง 1 คัน รถยนต์ขนย้ายกำลังของ ตำรวจถูกทุบและเจาะยาง 10 คันโล่ตำรวจถูกพันธมิตรเอาไป จำนวน 27 อันรวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น ประมาณ 800,000 บาท ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกทำร้ายร่างกายรวม 3 ราย ถูกหนังสติ๊กยิงศีรษะ 1 รายถูกรุมทำร้ายร่างกายและหน่วงเหนี่ยวกักขัง 2 ราย” ผบช.ภ.1 กล่าว