ยิงคนขับแท็กซี่ดับจมกองเลือดคารถ เพื่อนผู้ตาย บอกผู้ตายเป็นคนนิสัยดีไม่เคยขัดแย้งกับใคร ขณะที่ตำรวจระบุคนร้ายประสงค์ต่อชีวิตไม่ประสงค์ทรัพย์ เพราะทรัพย์สินอยู่ครบ คาดประเด็นสังหารน่าจะมาจากผู้ตายเป็นพยานฟ้องร้องบริษัทแห่งหนึ่งให้กับกลุ่มพนักงานที่ผู้ตายเคยทำงานอยู่ ก่อนจะออกมาขับแท็กซี่ เชื่อคนร้ายน่าจะว่าจ้างให้ขับรถมาที่เกิดเหตุแล้วใช้ปืนยิงเสียชีวิตก่อนหลบหนีไป
วันนี้ (2 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.40 น. พ.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ใจดี พงส.(สบ 3) สน.ลำผักชี รับแจ้งเหตุพบแท็กซี่ถูกยิงเสียชีวิตที่ ม.3 ภายในซอยสำนักงานเขตที่ดินหนองจอก ถนนคลองอู่ตะเภา แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สมชาย เจริญนิติกุล ผกก.สน.ลำผักชี พ.ต.อ.จำลอง สว่างวงศ์ ผกก.สส.บก.น.3 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ลำผักชี แพทย์ รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบนถนนบริเวณริมคลองมุ่งหน้าวัดอู่ตะเภา เจ้าหน้าที่พบรถแท็กซี่ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นอัลติส สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทล-1411 กทม.ของบริษัท สหกรณ์แท็กซี่ไทย จำกัด จอดอยู่ โดยบริเวณกระจกหน้าฝั่งคนขับแตกทั้งบาน เศษกระจกตกหล่นอยู่บนเบาะนั่งข้างคนขับ ภายในพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายสมชาย ผลดี อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 213/69 หมู่ 4 ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในสภาพคว่ำหน้าจมกองเลือดบนเบาะนั่งข้างคนขับ สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้า คลุมทับด้วยเสื้อแขนยางสีดำ-ขาว กางเกงขายาวสีน้ำตาล จากการตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ขมับซ้ายทะลุขวา ภายในรถไม่มีร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรายละเอียดที่พบไปตรวจสอบ
จากการสอบสวน นายลม เหลือถนอม ผู้ที่พบศพคนแรกให้การว่า ช่วงเช้าขณะที่ตนกับภรรยา กำลังขี่รถจักรยานจะไปธุระย่านวัดอู่ตะเภาก็พบรถแท็กซี่คันดังกล่าวจอดอยู่จึงเข้าไปตรวจสอบก็พบผู้ตายนอนเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ด้าน นายขวัญไทย อ่อนบุญยะ อายุ 31 ปี เพื่อนที่ขับแท็กซี่อยู่อู่เดียวกับผู้ตายให้การว่า เมื่อช่วงเช้าตนมาเข้ากะพร้อมกับผู้ตาย จากนั้นตนเห็นว่าผู้ตายขับรับคนวิ่งสวนกับตนผ่านบริเวณ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง จนกระทั่งมาทราบอีกที ผู้ตายก็ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว จึงเดินทางมาตรวจสอบ ปกติผู้ตายเป็นคนนิสัยดี ไม่ดื่มเหล้า แต่สูบบุหรี่ และไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับใคร จึงไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่
ด้าน พ.ต.อ.จำลอง กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะประสงค์ต่อชีวิต ไม่ประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะจากการตรวจสอบแล้วพบว่าทรัพย์สินของผู้ตายยังอยู่ครบ ทั้งโทรศัพท์มือถือ และเงินสดกว่า 5,000 บาท ส่วนประเด็นการสังหารน่าจะมาจากผู้ตายเป็นพยานฟ้องร้องบริษัทแห่งหนึ่งให้กับกลุ่มพนักงานที่ผู้ตายเคยทำงานอยู่ ก่อนจะออกมาขับรถแท็กซี่ ส่วนเรื่องอะไรนั้นยังอยู่ระหว่างสอบสวน ซึ่งตนเชื่อว่าคนร้ายน่าจะว่าจ้างให้ผู้ตายขับรถมาที่เกิดเหตุแล้วใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิตก่อนหลบหนีไป หลังจากนี้จะได้เรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำอย่างละเอียด ก่อนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นได้สอบปากคำภรรยาผู้ตายให้การว่า ผู้ตายได้ไปเป็นพยานให้กับเพื่อนที่ทำคดีเรียกร้องค่าชดเชยค่าเสียหายกับบริษัทแห่งหนึ่งจำนวน 200,000 บาท คาดว่าน่าจะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้
วันนี้ (2 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.40 น. พ.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ใจดี พงส.(สบ 3) สน.ลำผักชี รับแจ้งเหตุพบแท็กซี่ถูกยิงเสียชีวิตที่ ม.3 ภายในซอยสำนักงานเขตที่ดินหนองจอก ถนนคลองอู่ตะเภา แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สมชาย เจริญนิติกุล ผกก.สน.ลำผักชี พ.ต.อ.จำลอง สว่างวงศ์ ผกก.สส.บก.น.3 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ลำผักชี แพทย์ รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบนถนนบริเวณริมคลองมุ่งหน้าวัดอู่ตะเภา เจ้าหน้าที่พบรถแท็กซี่ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นอัลติส สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทล-1411 กทม.ของบริษัท สหกรณ์แท็กซี่ไทย จำกัด จอดอยู่ โดยบริเวณกระจกหน้าฝั่งคนขับแตกทั้งบาน เศษกระจกตกหล่นอยู่บนเบาะนั่งข้างคนขับ ภายในพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายสมชาย ผลดี อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 213/69 หมู่ 4 ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในสภาพคว่ำหน้าจมกองเลือดบนเบาะนั่งข้างคนขับ สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้า คลุมทับด้วยเสื้อแขนยางสีดำ-ขาว กางเกงขายาวสีน้ำตาล จากการตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ขมับซ้ายทะลุขวา ภายในรถไม่มีร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรายละเอียดที่พบไปตรวจสอบ
จากการสอบสวน นายลม เหลือถนอม ผู้ที่พบศพคนแรกให้การว่า ช่วงเช้าขณะที่ตนกับภรรยา กำลังขี่รถจักรยานจะไปธุระย่านวัดอู่ตะเภาก็พบรถแท็กซี่คันดังกล่าวจอดอยู่จึงเข้าไปตรวจสอบก็พบผู้ตายนอนเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ด้าน นายขวัญไทย อ่อนบุญยะ อายุ 31 ปี เพื่อนที่ขับแท็กซี่อยู่อู่เดียวกับผู้ตายให้การว่า เมื่อช่วงเช้าตนมาเข้ากะพร้อมกับผู้ตาย จากนั้นตนเห็นว่าผู้ตายขับรับคนวิ่งสวนกับตนผ่านบริเวณ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง จนกระทั่งมาทราบอีกที ผู้ตายก็ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว จึงเดินทางมาตรวจสอบ ปกติผู้ตายเป็นคนนิสัยดี ไม่ดื่มเหล้า แต่สูบบุหรี่ และไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับใคร จึงไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่
ด้าน พ.ต.อ.จำลอง กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะประสงค์ต่อชีวิต ไม่ประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะจากการตรวจสอบแล้วพบว่าทรัพย์สินของผู้ตายยังอยู่ครบ ทั้งโทรศัพท์มือถือ และเงินสดกว่า 5,000 บาท ส่วนประเด็นการสังหารน่าจะมาจากผู้ตายเป็นพยานฟ้องร้องบริษัทแห่งหนึ่งให้กับกลุ่มพนักงานที่ผู้ตายเคยทำงานอยู่ ก่อนจะออกมาขับรถแท็กซี่ ส่วนเรื่องอะไรนั้นยังอยู่ระหว่างสอบสวน ซึ่งตนเชื่อว่าคนร้ายน่าจะว่าจ้างให้ผู้ตายขับรถมาที่เกิดเหตุแล้วใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิตก่อนหลบหนีไป หลังจากนี้จะได้เรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำอย่างละเอียด ก่อนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นได้สอบปากคำภรรยาผู้ตายให้การว่า ผู้ตายได้ไปเป็นพยานให้กับเพื่อนที่ทำคดีเรียกร้องค่าชดเชยค่าเสียหายกับบริษัทแห่งหนึ่งจำนวน 200,000 บาท คาดว่าน่าจะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้