คืบหน้าคดีฆ่าอาจารย์กรมศิลป์ระดับสูง ตำรวจตามสัญญาณโทรศัพท์สัญญาณ GPRS ผู้ตายจนพบผู้ต้องสงสัยเป็นพลทหารสังกัด รด.เจ้าตัวยังปฏิเสธอ้างเป็นฝีมือเพื่อนหนุ่มขายบริการเป็นผู้ลงมือ แต่พบพิรุธพยายามเค้นสอบให้สารภาพความจริง
จากกรณีที่ นายสมิท ศิริภักร์ อายุ 59 ปี ข้าราชการระดับสูงกรมศิลปากร ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงกว่า 10 แผล เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านเลขที่ 1667/431 ถนนบรมราชชนนีซอย 5 แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม.ก่อนที่จะขโมยทรัพย์สิน รวมทั้งรถยนต์หรู มูลค่ากว่า 7,000,000 บาท หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (20 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอต ผบก.น.7 พ.ต.อ.พันธุ์ศักดิ์ ธรรมจารีย์ ผกก.ศส.บช.น. พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.กก.สืบสวน บก.น.7 และ พ.ต.ต.วีรเดช กีรติพสุวัฒน์ สว.กก.สืบสวน บก.น.7 พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวนกว่า 20 นาย ได้ร่วมกันเข้าประชุม เพื่อหาหนทางคลี่คลายคดีนี้ที่ สน.บางยี่ขัน หลังจากตรวจสอบพบว่ามีการใช้มือถือของผู้ตาย ที่หายไปจากบ้านพักในวันที่เกิดเหตุ โดยสัญญาณไปปรากฏอยู่ที่บริษัทซอฟต์แวร์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บนชั้น 23 อาคารประกันภัยไทยวิวัฒน์ ถนนรัชดา แขวงและเขตดินแดง กทม.
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังไปตรวจสอบภายในบริษัทดังกล่าว ทราบว่า ผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ตายอยู่นั้นเป็นพนักงานหญิงคนหนึ่งของบริษัท ทราบชื่อต่อมา คือ น.ส.เปิ้ล (นามสมมติ) อายุ 21 ปี โดย น.ส.เปิ้ล ยอมรับสารภาพว่า โทรศัพท์เครื่องดังกล่าว เป็นของแฟนหนุ่มชื่อ พลทหารเสรี หรือ “บอล” พันธะวงศิลป์ อายุ 21 ปี
ปัจจุบันเป็นทหารกองประจำการสังกัดกรมการรักษาดินแดน (ร.ด.) นำมาให้ใช้ เจ้าหน้าที่จึงรีบเดินทางไปที่กรมการรักษาดินแดน ตั้งอยู่ใกล้วังสราญรมย์ แขวงพระราชวัง เขตพระนคร กทม.เพื่อประสานกับผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมตัว พลทหาร เสรี ซึ่งเป็น 1 ในคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่าผู้ตายเอาไว้ได้
ต่อมาเจ้าหน้า ศส.บช.น.ได้ทำการตรวจสอบรถสัญญาณ GPRS ของรถเก๋งของผู้ตาย ยี่ห้อ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ณธ 134 กทม.พบว่า ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในบ้านบิดา ของ พลทหาร เสรี ภายในหมู่บ้านกฤษดานคร ย่านถนนแจ้งวัฒนะ จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเดินทางไปร่วมตรวจสอบ ก่อนที่จะนำตัว พลทหาร เสรี กลับมามอบให้พนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ทำการสอบปากคำ
จากการสอบสวน พลทหาร เสรี ยังให้การภาคเสธ.โดยอ้างว่า ตนได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์จริง แต่ผู้ลงมือฆ่าผู้ตาย คือ นายตี๋ (ไม่ทราบนามสกุล) เพื่อนสนิทตน ซึ่งเป็นหนุ่มขายบริการอยู่บริเวณรั้วกรมการรักษาดินแดน โดยหลังก่อเหตุ ตน และ นายตี๋ ได้ลงมือขโมยทรัพย์สินและขับรถเก๋งของผู้ตายหลบหนีออกจากบ้านมา ซึ่ง นายตี๋ เป็นผู้นำเงินสดและเครื่องประดับของผู้ตายไป ส่วนตนนำรถคันดังกล่าวไปจอดไว้ที่บ้านบิดา และนำโทรศัพท์มือถือไปให้แฟนสาวใช้ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของ พลทหาร เสรี เท่าใดนัก เนื่องจากพบพิรุธหลายจุด ประกอบกับไม่สามารถบอกเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับตัว นายตี๋ ได้ทั้งๆ ที่เป็นเพื่อนสนิทกัน อย่างไรก็ตาม ทีมพนักงานสอบสวน จะใช้เวลาตลอดคืนนี้ทำการเค้นสอบ พลทหาร เสรี เพื่อให้เปิดปากยอมรับสารภาพความจริงออกมาให้ได้ และจะเร่งติดตามตัว นายตี๋ พร้อมของกลางทั้งหมด กลับมาดำเนินคดีให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด
จากกรณีที่ นายสมิท ศิริภักร์ อายุ 59 ปี ข้าราชการระดับสูงกรมศิลปากร ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงกว่า 10 แผล เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านเลขที่ 1667/431 ถนนบรมราชชนนีซอย 5 แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม.ก่อนที่จะขโมยทรัพย์สิน รวมทั้งรถยนต์หรู มูลค่ากว่า 7,000,000 บาท หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (20 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอต ผบก.น.7 พ.ต.อ.พันธุ์ศักดิ์ ธรรมจารีย์ ผกก.ศส.บช.น. พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.กก.สืบสวน บก.น.7 และ พ.ต.ต.วีรเดช กีรติพสุวัฒน์ สว.กก.สืบสวน บก.น.7 พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวนกว่า 20 นาย ได้ร่วมกันเข้าประชุม เพื่อหาหนทางคลี่คลายคดีนี้ที่ สน.บางยี่ขัน หลังจากตรวจสอบพบว่ามีการใช้มือถือของผู้ตาย ที่หายไปจากบ้านพักในวันที่เกิดเหตุ โดยสัญญาณไปปรากฏอยู่ที่บริษัทซอฟต์แวร์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บนชั้น 23 อาคารประกันภัยไทยวิวัฒน์ ถนนรัชดา แขวงและเขตดินแดง กทม.
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังไปตรวจสอบภายในบริษัทดังกล่าว ทราบว่า ผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ตายอยู่นั้นเป็นพนักงานหญิงคนหนึ่งของบริษัท ทราบชื่อต่อมา คือ น.ส.เปิ้ล (นามสมมติ) อายุ 21 ปี โดย น.ส.เปิ้ล ยอมรับสารภาพว่า โทรศัพท์เครื่องดังกล่าว เป็นของแฟนหนุ่มชื่อ พลทหารเสรี หรือ “บอล” พันธะวงศิลป์ อายุ 21 ปี
ปัจจุบันเป็นทหารกองประจำการสังกัดกรมการรักษาดินแดน (ร.ด.) นำมาให้ใช้ เจ้าหน้าที่จึงรีบเดินทางไปที่กรมการรักษาดินแดน ตั้งอยู่ใกล้วังสราญรมย์ แขวงพระราชวัง เขตพระนคร กทม.เพื่อประสานกับผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมตัว พลทหาร เสรี ซึ่งเป็น 1 ในคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่าผู้ตายเอาไว้ได้
ต่อมาเจ้าหน้า ศส.บช.น.ได้ทำการตรวจสอบรถสัญญาณ GPRS ของรถเก๋งของผู้ตาย ยี่ห้อ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ณธ 134 กทม.พบว่า ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในบ้านบิดา ของ พลทหาร เสรี ภายในหมู่บ้านกฤษดานคร ย่านถนนแจ้งวัฒนะ จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเดินทางไปร่วมตรวจสอบ ก่อนที่จะนำตัว พลทหาร เสรี กลับมามอบให้พนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ทำการสอบปากคำ
จากการสอบสวน พลทหาร เสรี ยังให้การภาคเสธ.โดยอ้างว่า ตนได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์จริง แต่ผู้ลงมือฆ่าผู้ตาย คือ นายตี๋ (ไม่ทราบนามสกุล) เพื่อนสนิทตน ซึ่งเป็นหนุ่มขายบริการอยู่บริเวณรั้วกรมการรักษาดินแดน โดยหลังก่อเหตุ ตน และ นายตี๋ ได้ลงมือขโมยทรัพย์สินและขับรถเก๋งของผู้ตายหลบหนีออกจากบ้านมา ซึ่ง นายตี๋ เป็นผู้นำเงินสดและเครื่องประดับของผู้ตายไป ส่วนตนนำรถคันดังกล่าวไปจอดไว้ที่บ้านบิดา และนำโทรศัพท์มือถือไปให้แฟนสาวใช้ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของ พลทหาร เสรี เท่าใดนัก เนื่องจากพบพิรุธหลายจุด ประกอบกับไม่สามารถบอกเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับตัว นายตี๋ ได้ทั้งๆ ที่เป็นเพื่อนสนิทกัน อย่างไรก็ตาม ทีมพนักงานสอบสวน จะใช้เวลาตลอดคืนนี้ทำการเค้นสอบ พลทหาร เสรี เพื่อให้เปิดปากยอมรับสารภาพความจริงออกมาให้ได้ และจะเร่งติดตามตัว นายตี๋ พร้อมของกลางทั้งหมด กลับมาดำเนินคดีให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด