ตำรวจสันนิษฐาน ระเบิดถล่มพันธมิตรฯ จนมีผู้บาดเจ็บล้มตายเมื่อคืนที่ผ่านมา น่าจะมาจากเครื่องยิงระเบิดที่ยิงมาจากทางทิศเหนือของทำเนียบฯ หรือที่ ก.พ. แต่ยังพิสูจน์ไม่ได้ชัด และยืนยันไม่ได้ว่าเป็นระเบิดชนิดใด ต้องรอการตรวจพิสูจน์คราบเขม่าจากเต็นท์ ศพ และสะเก็ดระเบิดก่อน
วันนี้ (20 พ.ย.) เมื่อเวลา 12.15 น. พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.1 พ.ต.อ.วีระวิทย์ จันทร์จำเริญ พ.ต.อ.วิชาญ บริรักษ์กุล พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว รองผบก.น.1 และพ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผกก.สน.นางเลิ้ง นำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดของ บช.น.เข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุระเบิดภายในทำเนียบรัฐบาล โดยมี พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ เป็นผู้พาดูที่เกิดเหตุ โดยพาตำรวจไปตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุระเบิดเมื่อคืนที่ผ่านมา และจุดที่เกิดเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 2 ที่ เต็นท์เป็นรูทั้ง 2 จุด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ฯ ได้ทำการเก็บสะเก็ดระเบิดที่ตกอยู่โดยรอบ และตัดหลังคาเต็นท์ผ้าใบที่เป็นรูไปตรวจสอบ โดยใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 30 นาที
พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบสะเก็ดระเบิดที่อยู่โดยรอบ และร่องรอยที่เต็นท์ ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตัดหลังคาเต็นท์ตรงจุดที่เป็นรูออกไปตรวจสอบแล้ว ทั้งนี้ จาการสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ทราบว่าต้องรอตรวจคราบเขม่าที่ติดอยู่ที่เต็นท์ คราบเขม่าที่ศพผู้ตาย และสะเก็ดระเบิดทั้ง 3 อย่างก่อนจึงจะวิเคราะห์ได้ว่าเป็นระเบิดชนิดใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นสันนิษฐานว่าวิถีการยิงน่าจะยิงมาจากทิศไหน พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า น่าจะมาจากทางทิศเหนือ ซึ่งก็อาจจะเป็นไปได้ว่าอาจจะยิงมาจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. ทั้งนี้ เป็นเพียงงข้อสันนิษฐานเท่านั้น ต้องรอการตรวจพิสูจน์ที่ชัดเจนอีกครั้งก่อน ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากผู้ไม่หวังดีที่ต้องการให้เกิดเหตุขึ้น แต่จะมาจากความขัดแย้งกันเองในกลุ่มพันธมิตรฯ หรือไม่นั้น ไม่ทราบว่ามีความขัดแย้งอะไรกันบ้าง
เมื่อซักว่าระเบิดที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนจะเป็นระเบิดชนิดเดียวกันกับครั้งก่อนๆ หรือไม่ ผบก.น.1 กล่าวว่า ต้องรอการยืนยันจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานนำไปเปรียบเทียบกันก่อนว่าคราบเขม่าและสะเก็ดระเบิดตรงกันหรือไม่
“ในเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าระเบิดดังกล่าวอาจจะมาจากเครื่องยิง แต่จะเป็นชนิดไหนนั้น ต้องรอความชัดเจนจากกองพิสูจน์หลักฐานก่อน” พล.ต.ต.อนันต์ กล่าว
วันนี้ (20 พ.ย.) เมื่อเวลา 12.15 น. พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.1 พ.ต.อ.วีระวิทย์ จันทร์จำเริญ พ.ต.อ.วิชาญ บริรักษ์กุล พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว รองผบก.น.1 และพ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผกก.สน.นางเลิ้ง นำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดของ บช.น.เข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุระเบิดภายในทำเนียบรัฐบาล โดยมี พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ เป็นผู้พาดูที่เกิดเหตุ โดยพาตำรวจไปตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุระเบิดเมื่อคืนที่ผ่านมา และจุดที่เกิดเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 2 ที่ เต็นท์เป็นรูทั้ง 2 จุด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ฯ ได้ทำการเก็บสะเก็ดระเบิดที่ตกอยู่โดยรอบ และตัดหลังคาเต็นท์ผ้าใบที่เป็นรูไปตรวจสอบ โดยใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 30 นาที
พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบสะเก็ดระเบิดที่อยู่โดยรอบ และร่องรอยที่เต็นท์ ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตัดหลังคาเต็นท์ตรงจุดที่เป็นรูออกไปตรวจสอบแล้ว ทั้งนี้ จาการสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ทราบว่าต้องรอตรวจคราบเขม่าที่ติดอยู่ที่เต็นท์ คราบเขม่าที่ศพผู้ตาย และสะเก็ดระเบิดทั้ง 3 อย่างก่อนจึงจะวิเคราะห์ได้ว่าเป็นระเบิดชนิดใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นสันนิษฐานว่าวิถีการยิงน่าจะยิงมาจากทิศไหน พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า น่าจะมาจากทางทิศเหนือ ซึ่งก็อาจจะเป็นไปได้ว่าอาจจะยิงมาจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. ทั้งนี้ เป็นเพียงงข้อสันนิษฐานเท่านั้น ต้องรอการตรวจพิสูจน์ที่ชัดเจนอีกครั้งก่อน ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากผู้ไม่หวังดีที่ต้องการให้เกิดเหตุขึ้น แต่จะมาจากความขัดแย้งกันเองในกลุ่มพันธมิตรฯ หรือไม่นั้น ไม่ทราบว่ามีความขัดแย้งอะไรกันบ้าง
เมื่อซักว่าระเบิดที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนจะเป็นระเบิดชนิดเดียวกันกับครั้งก่อนๆ หรือไม่ ผบก.น.1 กล่าวว่า ต้องรอการยืนยันจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานนำไปเปรียบเทียบกันก่อนว่าคราบเขม่าและสะเก็ดระเบิดตรงกันหรือไม่
“ในเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าระเบิดดังกล่าวอาจจะมาจากเครื่องยิง แต่จะเป็นชนิดไหนนั้น ต้องรอความชัดเจนจากกองพิสูจน์หลักฐานก่อน” พล.ต.ต.อนันต์ กล่าว
