ผบช.น.เรียกประชุมฝ่ายสืบสวน บก.น.7และ สน.บางยี่ขัน เพื่อเร่งคลี่คลายปมการสังหารหนุ่มใหญ่ ซึ่งเป็นข้าราชการของกรมศิลปากร ผบช.น.เผย เล็งตัวผู้ต้องสงสัยเอาไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ ต้องรอหลักฐานทั้งหมดให้แน่ชัดเสียก่อน
วันนี้ (19 พ.ย.) เมื่อเวลา 17.30 น.พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวน รอง ผบช.น.พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอต ผบก.น.7 และ พ.ต.อ.ถิร์สทัต บูรณะรัช ผกก.สน.บางยี่ขัน ได้เรียกประชุมฝ่ายสืบสวน บก.น.7 และ สน.บางยี่ขัน เพื่อคลี่คลายคดี นายสมิทธิ ศิริภัทร อายุ 59 ปี ข้าราชการกรมศิลปากร ถูกคนร้ายใช้มีดแทงจนเสียชีวิตในบ้านพัก แล้วขโมยทรัพย์สิน รวมทั้งรถยนต์หรู มูลค่าร่วม 7 ล้านบาท เหตุเกิดเวลา 21.30 น.วันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.ท.สุชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งประเด็นการเสียชีวิตไว้ 2 เรื่อง คือฆ่าชิงทรัพย์ และ ความขัดแย้งส่วนตัว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าคนร้ายที่ลงมือเป็นใคร เป็นคนรู้จักคุ้นเคยกับผู้ตายหรือไม่ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่พอจะทราบตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวมถึงพยานแวดล้อม แต่คาดว่า ไม่น่าจะใช่วัยรุ่นที่เข้าออก ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้หาพยานหลักฐานอย่างแน่ชัดเสียก่อน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่มีความสำคัญ ทางเจ้าหน้าที่ก็ร่วมกันทำงานหลายฝ่าย นับว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก หลังได้สอบพยานแวดล้อมหลายปาก
พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่บริเวณทางเข้าออกหน้าหมู่บ้าน พบว่า สามารถจับภาพรถยนต์ของผู้ตายเอาไว้ได้ แต่เนื่องจากรถติดฟิล์มทึบ จึงไม่สามารถมองเห็นตัวคนร้าย หรือรูปพรรณสัIฐาน ได้ แต่เจ้าหน้าที่สามารถเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายเอาไว้ได้ ขณะเดียวกัน ก็มีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นเนื้อเยื้อที่ติดอยู่บนเล็บของผู้ตาย จึงสันนิษฐานได้ว่าน่าจะเกิดการต่อสู้ หากเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยที่เล็งเอาไว้ได้ก็จะนำมาเปรียบเทียบดีเอ็นเอ จากหลักฐานที่มีอยู่เพื่อความแน่ชัด หากใครรู้เบาะแสคนร้าย หรือหากใครพบเห็นรถยนต์ของผู้ตายที่คนร้ายขโมยหลบหนีไปก็ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามจับกุมได้ทุกพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้