อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ ยอมรับการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนต้องยุ่งยาก หากอังกฤษถอนวีซ่า “แม้ว” จริง ต้องให้ สตช.สืบหาที่อยู่ใหม่ แต่ยืนยันแม้วไปอยู่ที่ไหนก็ขอส่งตัวได้ แม้ไม่มีสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ให้อาศัยหลักคำมั่นต่างตอบแทน ระบุขณะนี้ได้จัดเอกสารพร้อมขอส่งตัว แค่รอฟัง “ทนายทักษิณ” ยื่นอุทธรณ์คดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาฯ ตามเงื่อนเวลาหรือไม่ คาดยื่นคำร้องได้ภายในสิ้นปี
วันนี้ (8 พ.ย.) นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าประเทศอังกฤษยกเลิกวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องคำพิพากษาจำคุก 2 ปี คดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า หากเป็นความจริงการยื่นเรื่องขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศอังกฤษต้องเกิดความยุ่งยาก เนื่องจากเมื่อมีการยกเลิกวีซ่า หมายความว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่ได้พำนักอยู่ที่ประเทศอังกฤษอีกต่อไป ซึ่งการขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจะดำเนินการเมื่อมีหลักฐานชัดเจนว่าบุคคลนั้นมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งในประเทศที่จะขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน ดังนั้นถ้าประเทศอังกฤษยกเลิกวีซ่าและ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้อยู่ที่ประเทศอังกฤษแล้ว ก็ต้องเป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในฐานะผู้มีหน้าที่ปฏิบัติตามหมายจับของศาลในการติดตามตัวจำเลย ที่จะสืบหาข้อมูลที่ชัดเจนว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ พำนักอยู่ที่ใด โดย สตช.อาจจะขอความร่วมมือประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ ที่จะดำเนินการเรื่องดังกล่าว ซึ่งหลังจากที่มีข้อมูลชัดเจนแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ใดแน่นอน อัยการในฐานะผู้ที่ต้องทำหน้าที่ยื่นคำร้องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจะได้ดำเนินการต่อไป
นายศิริศักดิ์ กล่าวต่อว่า หากปรากฏข้อเท็จจริงชัดเจนว่าประเทศอังกฤษยกเลิกวีซ่า และ พ.ต.ท.ทักษิณ พำนักในประเทศอื่นที่ไม่มีสนธิสัญญาระหว่างประเทศในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน อัยการก็ยังสามารถดำเนินการยื่นคำร้องต่อประเทศนั้นได้ โดยอาศัยการให้คำมั่นหลักต่างตอบแทนแลกเปลี่ยนกันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย หรือที่เรียกว่า Reciprocity โดยเป็นการให้คำมั่นต่อกันว่าถ้าประเทศนั้นยินดีพิจารณาเรื่องและยินยอมส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว ไทยก็ยินดีพิจารณาเรื่องเช่นเดียวกันหากประเทศนั้นต้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งการยื่นคำร้องโดยอาศัยหลักการต่างตอบแทน การพิจารณาเบื้องต้นก็จะอาศัยหลักสากลคือต้องเป็นความผิดของทั้ง 2 ประเทศ
นายศิริศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้คณะทำงานอัยการรวบรวมเอกสารที่จะใช้ประกอบยื่นคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนไว้เกือบเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ และเอกสารคำร้องขอส่งตัวที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ โดยระหว่างนี้รอเพียงว่า ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะยื่นอุทธรณ์คดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกหรือไม่ ซึ่งจะครบกำหนดยื่น 30 วัน ภายในวันที่ 20 พ.ย.นี้ หากชัดเจนแน่นอนว่าไม่ยื่นอุทธรณ์แล้ว จึงถือว่าคำพิพากษาศาลฎีกาฯ ที่ตัดสินจำคุก 2 ปีถือเป็นที่สุดที่จะใช้ดำเนินขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ทันที ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นคาดว่าการยื่นคำร้องอัยการจะดำเนินการได้ภายในสิ้นปี 2551 แต่ทั้งนี้ต้องรอฟังความชัดเจนเรื่องที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยว่ายังอยู่ที่ประเทศอังกฤษหรือไม่ หรืออยู่ที่ประเทศอื่นแล้ว ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ย้ายไปพำนักประเทศอื่นอัยการก็เพียงแค่ปรับข้อกฎหมายที่จะใช้ขอส่งตัวกับประเทศนั้นๆ โดยเชื่อว่าไม่มีปัญหายุ่งยากเพราะเอกสารคำร้องก็จัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว