ปศท.รวบแก๊งปลอมบัตรเครดิตเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ตระเวนรูดเติมน้ำมันทั้งภาคกลาง-เหนือ-อีสาน เผยกลวิธีปลอมบัตรจะติดต่อซื้อข้อมูลบัตรเครดิตจากชาวมาเลเซียในราคา 8,000-10,000 บาท โดยส่งข้อมูลผ่านทางเอสเอ็มเอส เมื่อได้ข้อมูลแล้วจะทำสำเนาข้อมูลลงบัตรปลอมก่อนแจกจ่ายให้กับลูกทีมนำไปใช้รูดต่อไป
วันนี้ (6 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ก. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปศท.แถลงข่าวจับกุม นายธิบดี ธีรอุดมกุล หรือ นายลิขิต คำสิงห์ อายุ 55 ปี นายสมชาย จิรพิทยานนท์ อายุ 42 ปี และนายทวี คงศรี อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันปลอมและใช้หรือมีไว้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม และเป็นบัตรในการใช้ชำระค่าสินค้า บริการหรือแทนเงินสด มีเครื่องมือ วัตถุเพื่อใช้หรือให้ได้ข้อมูลในการปลอมบัตรอิเล็กทรอนิค พร้อมของกลางบัตรเครดิตปลอม จำนวน 25 ฉบับ ข้อมูลบัตรเครดิตที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือจำนวน 102 ข้อมูล เครื่องพิมพ์บัตรจำนวน 1 เครื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์พกพาจำนวน 1 เครื่อง เครื่องสำเนาข้อมูลแถบแม่เหล็กจำนวน 1 เครื่อง รถยนต์จำนวน 2 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมจำนวน 8 แผ่น โทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง และซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือจำนวน 6 แผ่น
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทยได้ให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า เอกอัครราชทูตฯ ได้ถูกคนร้ายปลอมแปลงบัตรเครดิตและนำมาใช้ในประเทศไทย มียอดความเสียหายเป็นเงินจำนวนกว่า 6 หมื่นบาท
ต่อมา พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.โกวิทย์ เร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน จนกระทั่งพบว่าคนร้ายได้นำบัตรเครดิตปลอมไปใช้ชำระค่าน้ำมันที่เติมให้กับรถยนต์ซึ่งมีการปลอมแปลงหมายเลขทะเบียน ที่สถานีบริการน้ำมันหลายแห่งในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน
จากการสืบสวนพบว่า คนร้ายได้กระทำความผิดร่วมกันเป็นขบวนการ โดยมีนายธิบดี หรือนายลิขิต เป็นหัวหน้าและทำหน้าที่เป็นผู้ติดต่อซื้อข้อมูลบัตรเครดิตมาจากชาวมาเลเซียในราคา 8,000-10,000 บาท โดยส่งข้อมูลผ่านมาทางเอสเอ็มเอส เมื่อได้ข้อมูลแล้วนายสมชายจะเป็นผู้ดำเนินการทำสำเนาข้อมูลลงบัตรปลอมก่อนแจกจ่ายให้กับนางศิรินทร์ ราวัล อายุ 55 ปี นางถาวรีย์ ขันทวี อายุ 29 ปี และ นายจักรพันธ์ นวมมี อายุ 20 ปี ไปใช้ชำระค่าน้ำมัน เพื่อนำน้ำมันดังกล่าวไปขายให้กับคอก หรือปั๊มหลอด หรือปั๊มเถื่อน ที่อำเภอวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ในราคาถูกกว่าท้องตลาด 4-5 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่บริเวณหน้าร้านพิศาล 2 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า คนร้านกลุ่มนี้ลักลอบทำกระทำผิดในลักษณะเดียวกันมาหลายปี ทั้ง จังหวัดภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยนายธิบดีหรือนายลิขิต หลบหนีประกันตัวในชั้นศาลเกี่ยวกับคดีบัตรเครดิต แต่ก็ก่อคดีในลักษณะนี้อีกจนพบว่ามีหมายจับจากศาล จ.เชียงใหม่ ศาลอาญากรุงเทพ ศาลมีนบุรีรวม 6 หมาย เนื่องจากนายธิบดี หรือนายลิขิตมีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ย้ายที่พักไปอยู่โรงแรมต่างๆ เพื่อหนีการจับกุมของตำรวจ ซึ่งยอดความเสียหายที่แท้จริงนั้นมีมากกว่า 10 ล้านบาท
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวอีกว่า การจับกุมครั้งนี้ตำรวจสามารถขยายผลไปยึดของกลางทั้งหมดได้ครบวงจร ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นมีข้อมูลและบัตรเครดิตปลอมของเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ด้วย โดยหลังจากนี้ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.โกวิทย์ สืบสวนขยายผลเพิ่มเติมให้ถึงที่สุด ส่วนนายธิบดีนั้นตำรวจต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและไม่ให้ประกันตัวออกไปกระทำความผิดได้อีกเด็ดขาด