ตำรวจหลายหน่วยงานร่วมกันแถลงเพื่อดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ให้แก่ประชาชนในวันลอยกระทง ระบุชัดผู้จำหน่ายดอกไม้ไฟ พลุ ประทัดยักษ์ และผู้เล่น มีความผิดจับปรับถึง 1,000 บาท พร้อมสั่งทุกพื้นที่เข้มงวดกวดขันมากขึ้น แต่ที่บริเวณรอบภูเขาทองยังขายกันหรา
วันนี้ (6 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร ผบช.สตม. พล.ต.ท.จิรโรจน์ กี่ศิริ รอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. รองโฆษก ตร. พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผบก.ทท. พล.ต.ต.มิสกวัน บัวรา ผบก.รน. พล.ต.ต.วีระพัฒน์ ตันศรีสกุล ผบก.จร. พล.ต.ต.วราเทพ เมธาวัศน์ รอง ผบช. ประจำ ตร. รองโฆษก ตร. และหน่วยงานตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยเนื่องในเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2551
พล.ต.ท.ชัชวาลย์ กล่าวว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้จัดทำโครงการ “ตรวจคนเข้าเมืองอาสา” อำนวยความสะดวกผู้เดินทางเข้าออกราชอาณาจักรช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2551 ว่า ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ตระหนักถึงความสำคัญในช่วงเทศกาล จึงมอบหมายให้ พล.ต.ต.พงศ์เดชน์ ไชยประวัจน์ ผบก.ตม.ทอช.จัดทำโครงการ “ตรวจคนเข้าเมืองอาสา” ขึ้น โดยให้ประชาชนและนักศึกษาจากองค์กรและสถาบันต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวก ให้คำแนะนำและประสานงานแก่ผู้เดินทางโดยเฉพาะชาวต่างชาติ โดยในรุ่นแรกนี้มีนักธุรกิจที่มีความชำนาญด้านภาษาสมัครใจเข้าร่วม 52 คน และผ่านการอบรมงานตรวจคนเข้าเมืองขั้นพื้นฐานแล้ว สามารถปฏิบัติงานควบคู่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง
พล.ต.ต.มิสกวัน กล่าวถึงมาตรการการป้องกันทางน้ำของตำรวจน้ำว่า ได้เตรียมจัดตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยทั้งส่วนกลางในหน่วยงานในสังกัดทุกภูมิภาค พร้อมทั้งแบ่งพื้นที่ปฏิบัติการเป็น 11 พื้นที่ในแม่น้ำ ตั้งแต่ จ.พระนครศรีอยุธยา จนถึง จ.สมุทรปราการ โดยมีกำลังทางเรือประจำจุดต่างๆ ใช้เรือตรวจการณ์ไม่น้อยกว่า 30 ลำ กำลังตำรวจน้ำ 280 นาย และนักปฏิบัติการใต้น้ำ 50 นาย เพื่อรักษาความปลอดภัยและทรัพย์สินประชาชนที่เดินทางมาลอยกระทง รวมทั้งกวดขันป้องกันเหตุร้ายที่เกิดจากการเล่นดอกไม้เพลิง
พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจท่องเที่ยวก็จะทำการประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตพื้นที่ ทั้งตำรวจน้ำ ตำรวจนครบาล เพื่อประสานความร่วมมือในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยในวันที่ 8 พ.ย.ก็จะมีการสาธิตบูรณาการการดูแลความปลอดภัยช่วงเทศกาลลอยกระทง ที่บริเวณใต้สะพานพระราม 8
พล.ต.ต.วีระพัฒน์ กล่าวว่า ตำรวจจราจรเตรียมมาตรการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่มีการจัดงานลอยกระทง ได้แก่ บริเวณสวนสันติชัยปราการ ใต้สะพานพระราม 8 วัดสระเกศ วัดเลียบ สวนวชิรเบญจทัศ และใต้ทางด่วนสะพานพระราม 9 รวมทั้งป้องกันและปราบปรามการแข่งขันรถที่ก่อความเดือดร้อนรำคาญ
ด้าน พ.ต.ท.อำนวย น้อยประเทศ รอง ผกก.ป.สน.สำราญราษฎร์ อธิบายการเล่นดอกไม้เพลิง พลุ และประทัด ที่นิยมเล่นกันในช่วงเทศกาลลอยกระทง จนมีผู้บาดเจ็บจากการเล่นเป็นจำนวนมาก และอาจเสียชีวิตได้จากการเล่นประทัดยักษ์ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งประทัดยักษ์ส่วนใหญ่มีการดัดแปลงนำท่อพีวีซีมาเป็นปลอกประทัดแล้วอัดดินปืนเข้าไป เมื่อจุดจะมีอานุภาพรุนแรงเสียงดังมาก และหากนำไปผูกติดกับขวดแก้ว เมื่อจุดจะมีสะเก็ดระเบิดเกิดขึ้น เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต โดยดอกไม้เพลิงที่นำมาเล่นนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทแสงสี และประเภทเสียง (ประทัดยักษ์) ทั้งนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งคุมเข้มทุกท้องที่กวดขันการลักลอบผลิต จำหน่ายและเล่นดอกไม้ไฟ พลุ ประทัด หากฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมมีโทษปรับไม่เกิน 1 พันบาท
“ในส่วนเขตพื้นที่การรับผิดชอบของ สน.สำราญราษฎร์นั้นก็ได้มีการกวดขันจับกุม ร้านจำหน่ายดอกไม้เพลิงโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งมีพื้นที่ขายหลักอยู่จุดเดียว คือ บริเวณป้อมมหากาฬ โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคม ถึงวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีการจับกุมร้านที่กระทำความผิดทั้งสิ้น 82 ราย ได้ผู้ต้องหา 82 คน โดยได้เปรียบเทียบปรับรายละ 1,000 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 82,000 บาท” พ.ต.ท.อำนวย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บริเวณป้อมมหากาฬ และรอบภูเขาทอง ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายดอกไม้ไฟ พลุที่มีชื่อเสียง ยังคงมีแม่ค้ามาดักถือป้ายเชิญชวนว่ามีพลุ ดอกไม้ไฟจำหน่ายอยู่หลายราย เพียงแต่ไม่ได้นำสินค้ามาวางจำหน่ายให้เห็นเท่านั้น
