xs
xsm
sm
md
lg

พ่วง 18 ล้อซิ่งแหกโค้ง พุ่งชนต้นไม้-เสาไฟ โชเฟอร์ดับ!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

สภาพรถพ่วง 18 ล้อพุ่งชนรถริมไหล่ทาง และเสาไฟฟ้า - ต้นไม้ใหญ่ (ภาพจากเนชั่น)
รถพ่วง 18 ล้อบรรทุกทรายเต็มคันเสียหลักพุ่งแหกโค้งชนรถที่จอดริมไหล่ทาง อัดก๊อบปี้กับต้นไม้-เสาไฟฟ้า โชเฟอร์เสียชีวิตคารถ ตำรวจคาดหลับใน ส่งศพ รพ.ศิริราช ชันสูตรหาสาเหตุ

วันนี้ (27 ต.ค.) เมื่อเวลา 04.00 น. ร.ต.ต.อภิชาติ ปานแพร ร้อยเวรสอบสวน สน.บางพลัด รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงเสียหลักพลิกคว่ำชนต้นไม้ริมถนนและมีผู้เสียชีวิต บริเวณซอยสิรินทร 2 มุ่งหน้าแยกบางพลัด ถนนสิรินทรขาเข้า แขวงและเขตบางพลัด กรุงเทพฯ จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง พบทรายตกกระจายเกลื่อนถนน เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรโดยให้รถสัญจรได้เพียง 1 ช่องทางเพื่อป้องกันเกิดอุบัติซ้ำซ้อน ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถอีซูซุ ทรูเปอร์ 4 ประตู ทะเบียน ฐษ 46 กรุงเทพมหานคร จอดเกยอยู่บนฟุตปาธ สภาพรถด้านคนขับและด้านหน้าพังยุบ ใกล้กันมีต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นล้มลงมาอยู่บนพื้น ห่างกันประมาณ 10 เมตร พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ส่วนหัวเลขทะเบียน 70-5887 กาญจนบุรี ส่วนท้ายไม่มีหมายเลขทะเบียน จอดพลิกตะแคงขวาขวางถนนอยู่ 2 เลน ส่วนหัวจอดชนต้นไม้และเสาไฟฟ้าบริเวณหน้าอู่ซ่อมรถยนต์ car-lack 68 และยังทับรถเก๋งเก๋งยี่ห้อโตโยต้าสีน้ำเงิน ทะเบียน 1อ 4758 กทม.ได้รับความเสียหาย

ส่วนหลังคารถบรรทุกพ่วงยุบลงมาอัดคนขับรถติดกับคอนโซล ทราบชื่อนายวิทยา คุ้มพุ่ม อายุ 28 ปี อยู่บ้าน 135/10 ถนนแสงชูโตใหม่ ต.ประค้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูต้องใช้เครื่องตัดถ่างช่วยเหลือนำร่างออกมาอย่างทุลักทุเล

นายนาเรียง เวรุวนาลักษณ์ อายุ 35 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยบริษัท มั่นคงพิทักษ์ทรัพย์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนนั่งทำงานอยู่หน้าร้านซ่อมรถยนต์ก็ได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวจึงหันไปมองก็พบรถบรรทุกพ่วงชนรถยนต์อีซูซุ จากนั้นก็วิ่งพุ่งตรงเข้ามา ด้วยความตกใจกลัวจึงรีบวิ่งหนีกระทั่งเห็นรถบรรทุกพ่วงชนต้นไม้และเสาไฟฟ้า คิดว่ารถคงเสียหลักแหกโค้ง

ร.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า รถบรรทุกพ่วงบรรทุกทรายมาเต็มคัน เมื่อถึงที่เกิดเหตุแล้วเกิดเสียหลักชนรถที่จอดอยู่ริมทางและพุ่งชนต้นไม้และเสาไฟได้รับความเสียหาย ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบว่าเกิดจากการหลับในหรือไม่ จะส่งศพไปทำการชันสูตรเพื่อหาสาเหตุอีกครั้งที่โรงพยาบาลศิริราช
กำลังโหลดความคิดเห็น