มือมืดวางระเบิดป้อมตำรวจริมคลองผดุงฯ ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการซ้ำรอบสอง แต่ไม่รุนแรงเท่าคราวที่แล้ว ไม่มีคนเจ็บ-ตายเช่นเดิม ส่วนอีกจุดลอบวางบึ้มที่แยกวัดเบญฯทำพุ่มไม้กระจุย ด้าน “บิ๊กเบื๊อก” เชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ไม่ให้ตำรวจพักผ่อน
เมื่อเวลา 22.00 น.วานนี้ (8 ต.ค.) พ.ต.ท.ดำรงค์พงษ์ เพ็ชรสุวรรณ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.นางเลิ้ง รับแจ้งมีเหตุระเบิดที่ป้อมตำรวจจราจรบริเวณแยกประชาเกษม ถนนกรุงเกษม แขวงบางขุนพรม เขตพระนคร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.พงศ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น. พ.ต.อ.วิบูลย์ยุทธ สันทัดเวช ผกก.สน.มักกะสัน รักษาการ ผกก.สน.นางเลิ้ง พ.ต.ท.ภูเบศ เส้นขาว รอง ผกก.สส.สน.นางเลิ้ง เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.ตปพ.บช.น.เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุอยู่ป้อมตำรวจจารจรแยกดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบเศษกระจกประตูป้อมหล่นแตกกระจัดกระจาย มีเศษพลาสติก และดินปืนตกเกลื่อนพื้น นอกจากนี้ตู้ทำน้ำเย็นและคอมเพรสเซอร์แอร์ของป้อมได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ฯ ได้ตรวจเก็บรายละเอียดทั้งหมดที่พบไว้เป็นหลักฐาน โดยเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นชิ้นส่วนของประทัดยักษ์
จากการสอบถามประชาชนที่อยู่ตรงข้ามป้อมจราจรที่เกิดเหตุ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุพบเห็นชายวัยรุ่นประมาณ 3-4 คนเดินอยู่รอบๆ ป้อมดังกล่าว ลักษณะเหมือนมองดูเพื่อนกำลังทำอะไรอยู่ภายในป้อมตำรวจ ก่อนจะเกิดเหตุระเบิดขึ้น 3 ครั้ง
ด้าน พ.ต.อ.วิบูลย์ยุทธ กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณดังกล่าวจึงเข้ามาตรวจสอบ โดยจากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงทราบว่า มีเสียงระเบิดดังขึ้นที่ป้อมดังกล่าวประมาณ 3 ครั้ง หลังเกิดเหตุแล้วไม่พบผู้ใดอยู่ในบริเวณใกล้เคียงหรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด คาดว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ เนื่องจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่มากเหมือนครั้งที่แล้วที่เกิดเหตุระเบิดที่ป้อมดังกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วที่ทำให้กระจกรอบๆ แตกกระจาย อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบว่าคนร้ายใช้วิธีเข้ามาวางระเบิดภายในป้อมหรือขว้างปาเข้ามา ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอีกครั้ง รวมทั้งจะตรวจสอบว่า มีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายเอาไว้ได้หรือไม่
พ.ต.อ.วิบูลย์ยุทธ กล่าวต่อว่า กระจกด้านข้างที่แตกนั้นเกิดจากการถูกระเบิดเมื่อเดือนที่แล้ว อยู่ระหว่างรอการซ่อมบำรุงแต่ก็มาเกิดเหตุระเบิดซ้ำอีก จึงอาจจะเหมือนว่าเสียหายรุนแรง แต่ความจริงเสียหายแค่กระจกประตูและคอมเพรสเซอร์แอร์ ซึ่งป้อมดังกล่าวยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ แผงบังคับสัญญาณไฟจราจรไม่ได้เสียหาย สำหรับผู้บาดเจ็บนั้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
พ.ต.อ.วิบูลย์ยุทธ กล่าวอีกว่า ป้อมดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประจำที่ป้อม เวลา 05.30-21.00 น. โดยช่วงหลังเวลา 21.00 น.ไปแล้วจะไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำที่ป้อม เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่รถสัญจรไปมาน้อยลงแล้ว และจะใช้สัญญาณไฟจราจรอัตโนมัติไว้แทน อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่ สน.นางเลิ้ง ก็ได้จัดกำลังไว้ป้องกันและเฝ้าระวังเหตุหลายจุดด้วยกัน ทั้งถนนราชดำเนิน และสถานที่ราชการต่างๆ
จากนั้นเวลาประมาณ 01.00 น.ก็เกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 ครั้ง ที่บริเวณพุ่มไม้ริมรั้วสนามนางเลิ้ง แยกวัดเบญจมบพิตร ถนนพระราม 5 มุ่งหน้าสะพานชมัยมรุเชฐ ซึ่งจากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็นชาย 2 คนขี่รถ จยย.ไม่ทราบป้ายทะเบียน มาถึงจุดเกิดเหตุ คนขี่ได้จอดให้คนนั่งซ้อนท้ายนำวัตถุบางอย่างไปวางในพุ่มไม้ก่อนจะจุดไฟแช็กที่ จากนั้นก็ขี่รถ จยย.มุ่งไปทางทำเนียบรัฐบาล ก่อนจะก็เกิดระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ทำให้พุ่มไม้และต้นหญ้ากระจุยกระจายไปทั่วบริเวณ
ต่อมา พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.เดินทางมาตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดเผยว่าเหตุระเบิดบริเวณแยกประชาเกษมได้ให้ตำรวจท้องที่ตรวจสอบแล้ว เบื้องต้นคาดว่าเป็นประทัดยักษ์ ส่วนที่บริเวณแยกวัดเบญฯ นี้ก็คาดว่าน่าจะเป็นประทัดยักษ์เช่นเดียวกัน เพื่อสร้างสถานการณ์ ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุก สน.ตรวจตราโดยเฉพาะผู้ขับขี่รถ จยย.แล้ว เนื่องจากเชื่อว่าจะมีการก่อกวนทั้งคืนเพื่อไม่ให้ตำรวจพักผ่อน