ส.ส.ประชาธิปัตย์ แจ้งความสถานี NBT นำเสนอภาพหาเสียง “อภิรักษ์” เลยเวลากฎหมายเลือกตั้งกำหนด เพื่อชี้นำให้มีความผิด ระบุพรรคไม่อยู่เบื้องหลังหรือเกี่ยวข้องกับการออกอากาศ พร้อมแนบหลักฐานประกอบการแจ้งความด้วย
วันนี้ (6 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ สน.บางซื่อ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค พร้อมนายถาวร เสนเนียม ฝ่ายกฎหมายของพรคค เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.นิติเวช เสาะแสวง พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.บางซื่อ เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันกรณีที่มีสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งนำเสนอภาพการหาเสียงของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค ในช่วงเวลา 05.00 น.ของวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเลยเวลาที่กฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 90 กำหนดไว้ว่า ห้ามผู้สมัครหาเสียงหลังช่วงเวลา 18.00 น.ก่อนวันเลือกตั้ง โดยมีการนำแผ่นซีดีภาพการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ดังกล่าว และคำพูดของผู้ประกาศของสถานีโทรทัศน์ช่อง NBT ที่ได้สัมภาษณ์นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.มามอบไว้ให้เป็นหลักฐาน
นายองอาจ กล่าวว่า ที่เดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันในวันนี้ เนื่องจากเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางสถานีโทรทัศน์ NBT ได้จัดรายการสัมภาษณ์นายชูวิทย์ โดยเจ้าตัวได้กล่าวพาดพิงถึงนายอภิรักษ์ โดยมีใจความว่า นายชูวิทย์ได้รับชมภาพและเสียงในขณะที่นายอภิรักษ์ ลงพื้นที่ออกหาเสียงหลังเวลา 18.00 น.ของวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางโทรทัศน์บางช่อง โดยการแพร่ภาพดังกล่าวอาจขัดต่อกฎหมายการเลือกตั้งมาตรา 90 ซึ่งห้ามมิให้ผู้สมัครรายใดลงพื้นที่ออกหาเสียงหลังเวลา 18.00 น.ก่อนวันเปิดหีบเลือกตั้ง 1 วัน นอกจากนี้ทางพิธีกรของ NBT ยังได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การแพร่ภาพที่ขัดต่อกฎหมายนั้นอาจทำให้นายอภิรักษ์ ได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนมากกว่าผู้สมัครรายอื่นๆ
นายองอาจ กล่าวต่อว่า ที่มาแจ้งความก็เพื่อป้องกันไม่ให้คู่แข่งนำเรื่องดังกล่าวไปร้องทุกข์กับ กกต. โดยขอยืนยันว่า ภาพและเสียงที่ถูกแพร่ภาพออกไปนั้นทางนายอภิรักษ์ และพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้จะคัดสำเนาบันทึกประจำวันไปแจ้งให้ทาง กกต.ทราบต่อไป
สำหรับคำพูดของผู้ประกาศสถานีโทรทัศน์ NBT ที่นายองอาจนำมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น มีดังนี้คือ “นอกจากนี้ คุณชูวิทย์ยังได้ตัดพ้อกรณีที่สถานีโทรทัศน์บางช่องนั้น ยังได้นำภาพและเสียงของคุณอภิรักษ์มาออกอากาศในช่วงเช้ามืดวันนี้ค่ะ และมองว่าทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะตามกฎหมายนั้นไม่สามารถที่จะทำได้ ซึ่งเรื่องนี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คะแนนสียงของคุณอภิรักษ์นั้น มีคะแนนนำในการเลือกตั้งครั้งนี้นะคะ คงต้องยอมรับว่า จากนี้ไปแม้ว่าคุณชูวิทย์ แม้ว่าผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการจะออกมาแล้วว่า อาจจะมีเป็นอันดับ 3 หรืออันดับ 4 แต่ว่าด้วยคะแนน 330,000 คะแนน ที่คุณชูวิทย์เคยได้รับครั้งที่ผ่านมา ครั้งนี้คุณชูวิทย์กำลังรอดูผลคะแนนว่าจะไปเปรียบเทียบกับครั้งที่ผ่านมาว่าจะได้เพิ่มขึ้นหรือว่าลดลง”