“อัศวิน” ทำพิธีส่งมอบหน้าที่และธงสัญลักษณ์ บช.น.ให้ “สุชาติ” ผบช.น.คนใหม่ ขณะที่ “สุชาติ” บอกพร้อมเดินหน้าสานต่อนโยบายเดิมให้เกิดศักยภาพ และไม่หนักใจกับการรักษาความปลอดภัยผู้ชุมนุน เชื่อ ถ้ามีคนกลางที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับร่วมประสานทุกอย่างจะคลี่คลายด้วยดี
วันนี้ (30 ก.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 16.00 น.พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะอดีต ผบช.น.ทำพิธีส่งมอบหน้าที่การปกครองบังคับบัญชาและธงสัญลักษณ์กองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้ พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รอง ผบช.น.(ผบช.น.คนใหม่) บริเวณลานรวมพล กองกำกับการอารักขารักษาความปลอดภัย บช.น.โดยมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับรอง ผบช.น.ลงไปถึง ผกก.ทุกหน่วย แต่งกายเครื่องแบบเต็มยศเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงพร้อมกองตำรวจเกียรติยศ และเจ้าหน้าที่ถือธงประจำหน่วยงานในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลทั้งหมด ท่ามกลางความยินดีโดย พล.ต.ท.อัศวิน และ พล.ต.ต.สุชาติ ต่างมีมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสเดินทักทายผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเป็นกันเอง เพราะเคยทำงานร่วมกันมาก่อน
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นพิธีการ ว่า ขอบคุณข้าราชการตำรวจนครบาลทุกนายที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความขยันขันแข็งร่วมแรงร่วมมือกันมาอย่างดีตลอดเวลาที่ผ่านมาแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่ความประทับใจยังตราตรึงอยู่นานแสนนาน และแสดงความรู้สึกในใจว่า ภูมิใจในความเป็นข้าราชการตำรวจเพราะเป็นอาชีพที่รักการที่ก้าวขึ้นมาได้จนถึงตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร.ขณะนี้ถือว่าเกินความฝันเกินทุนที่มีอยู่ และขอยืนยันว่ารักในอาชีพนี้ไม่ขอลาออกอย่างเด็ดขาดแต่หากจะออกก็มีเพียง 2 สาเหตุเท่านั้นคือถูกไล่ออกหรือเกรียณอายุราชการ ส่วน พล.ต.ต.สุชาติ ผบช.น.คนใหม่นั้นขอยืนยันว่า เป็นคนดีเชื่อมั่นว่าจะสามารถนำพาหน่วยงาน บช.น.ดำเนินไปได้ด้วย และได้พูดคุยกันแล้ว พล.ต.ต.สุชาติ ก็รับปากว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดไม่ให้น้อยหน้าหน่วยงานอื่น
ด้าน พล.ต.ต.สุชาติ กล่าวว่า นโยบายการทำงานคงไม่แตกต่างจาก ผบช.น.คนอื่น คือ การทำนุบำรุงชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ การดูแลความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สินพี่น้องประชาชนใน กทม.ซึ่งต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเข้มข้นมากขึ้น การบริการประชาชน งานด้านความมั่นคง การบังคับใช้กฎหมายที่มีความเข้มข้นขึ้น รวมถึงการพัฒนาองค์กรที่ก้าวหน้าพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ส่วนการดูแลความสงบเรียบร้อยกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นไม่รู้สึกหนักใจอะไร ผุ้ชุมนุมก็เหมือนอวัยวะส่วนหนึ่งในร่างกายหากไม่มีการทำอะไรที่ทำให้ร่างกายบาดเจ็บก็คงอยู่ด้วยกันได้ หลายคนมีความคิดที่ไม่เหมือนกันแตกต่างกันก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่หากทุกคนหันหน้าเข้าหากันพูดคุยกันโดยมีคนกลางที่ทุกคนยอมรับเชื่อว่าปัญหานี้สามารถแก้ไขกันได้
พล.ต.ต.สุชาติ กล่าวถึงการแบ่งงานให้นายตำรวจระดับ รอง ผบช.น. จำนวน 9 นายว่า มีการพูดคุยกันมาตลอดแต่เบื้องต้นขณะนี้ยังคงให้ รอง ผบช.น.ดูแลงานที่รับผิดชอบตามเดิมไปก่อนส่วนคนที่มาใหม่นั้นจะเสริมในงานที่จำเป็น แต่ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้ขึ้นกับการตัดสินใจของตนเองคนเดียวต้องปรึกษาหารือกันในระดับ รอง ผบช.น.ทั้งหมดก่อน เพราะอยู่กันอย่างพี่น้อง ไม่ว่าการดำเนินงานในด้านใดโดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมต้องควบคุมให้ลดน้อยลงให้ได้ทุกคนต้องช่วยกันทั้งตำรวจและประชาชนที่ต้องร่วมมือกันด้วย
วันนี้ (30 ก.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 16.00 น.พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะอดีต ผบช.น.ทำพิธีส่งมอบหน้าที่การปกครองบังคับบัญชาและธงสัญลักษณ์กองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้ พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รอง ผบช.น.(ผบช.น.คนใหม่) บริเวณลานรวมพล กองกำกับการอารักขารักษาความปลอดภัย บช.น.โดยมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับรอง ผบช.น.ลงไปถึง ผกก.ทุกหน่วย แต่งกายเครื่องแบบเต็มยศเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงพร้อมกองตำรวจเกียรติยศ และเจ้าหน้าที่ถือธงประจำหน่วยงานในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลทั้งหมด ท่ามกลางความยินดีโดย พล.ต.ท.อัศวิน และ พล.ต.ต.สุชาติ ต่างมีมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสเดินทักทายผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเป็นกันเอง เพราะเคยทำงานร่วมกันมาก่อน
พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นพิธีการ ว่า ขอบคุณข้าราชการตำรวจนครบาลทุกนายที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความขยันขันแข็งร่วมแรงร่วมมือกันมาอย่างดีตลอดเวลาที่ผ่านมาแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่ความประทับใจยังตราตรึงอยู่นานแสนนาน และแสดงความรู้สึกในใจว่า ภูมิใจในความเป็นข้าราชการตำรวจเพราะเป็นอาชีพที่รักการที่ก้าวขึ้นมาได้จนถึงตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร.ขณะนี้ถือว่าเกินความฝันเกินทุนที่มีอยู่ และขอยืนยันว่ารักในอาชีพนี้ไม่ขอลาออกอย่างเด็ดขาดแต่หากจะออกก็มีเพียง 2 สาเหตุเท่านั้นคือถูกไล่ออกหรือเกรียณอายุราชการ ส่วน พล.ต.ต.สุชาติ ผบช.น.คนใหม่นั้นขอยืนยันว่า เป็นคนดีเชื่อมั่นว่าจะสามารถนำพาหน่วยงาน บช.น.ดำเนินไปได้ด้วย และได้พูดคุยกันแล้ว พล.ต.ต.สุชาติ ก็รับปากว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดไม่ให้น้อยหน้าหน่วยงานอื่น
ด้าน พล.ต.ต.สุชาติ กล่าวว่า นโยบายการทำงานคงไม่แตกต่างจาก ผบช.น.คนอื่น คือ การทำนุบำรุงชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ การดูแลความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สินพี่น้องประชาชนใน กทม.ซึ่งต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเข้มข้นมากขึ้น การบริการประชาชน งานด้านความมั่นคง การบังคับใช้กฎหมายที่มีความเข้มข้นขึ้น รวมถึงการพัฒนาองค์กรที่ก้าวหน้าพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ส่วนการดูแลความสงบเรียบร้อยกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นไม่รู้สึกหนักใจอะไร ผุ้ชุมนุมก็เหมือนอวัยวะส่วนหนึ่งในร่างกายหากไม่มีการทำอะไรที่ทำให้ร่างกายบาดเจ็บก็คงอยู่ด้วยกันได้ หลายคนมีความคิดที่ไม่เหมือนกันแตกต่างกันก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่หากทุกคนหันหน้าเข้าหากันพูดคุยกันโดยมีคนกลางที่ทุกคนยอมรับเชื่อว่าปัญหานี้สามารถแก้ไขกันได้
พล.ต.ต.สุชาติ กล่าวถึงการแบ่งงานให้นายตำรวจระดับ รอง ผบช.น. จำนวน 9 นายว่า มีการพูดคุยกันมาตลอดแต่เบื้องต้นขณะนี้ยังคงให้ รอง ผบช.น.ดูแลงานที่รับผิดชอบตามเดิมไปก่อนส่วนคนที่มาใหม่นั้นจะเสริมในงานที่จำเป็น แต่ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้ขึ้นกับการตัดสินใจของตนเองคนเดียวต้องปรึกษาหารือกันในระดับ รอง ผบช.น.ทั้งหมดก่อน เพราะอยู่กันอย่างพี่น้อง ไม่ว่าการดำเนินงานในด้านใดโดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมต้องควบคุมให้ลดน้อยลงให้ได้ทุกคนต้องช่วยกันทั้งตำรวจและประชาชนที่ต้องร่วมมือกันด้วย