ลูกค้าจวกห้างโลตัส ไม่ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูก หลังถูกคนร้ายฉกทรัพย์สินในกระเป๋าสะพานในห้างโลตัส สาขาเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา สูญเงินสดและทรัพย์สินกว่า 2 แสนบาท
วันนี้ (25 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. นางสรัญญา สุไพบูลย์พิพัฒน์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79/20 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ย่านสุขาภิบาล 1 ได้เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อ พ.ต.ต.วีระศักดิ์ ติระพัฒน์ พงส.(สบ.2) สน.โชคชัย ถึงกรณีที่ถูกคนร้ายขโมยทรัพย์สิน ขณะกำลังเข็นรถเข็นซื้อของภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. ซึ่งทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปเป็นเงินสด จำนวน 200,000 บาท โทรศัพท์มือ 2 เครื่อง นาฬิกายี่ห้อแทคฮอยเออร์ 2 เรือน มูลค่า 40,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดที่สูญหาย 2 แสนกว่า
นางสรัญญา กล่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านมา (24 ก.ย.) เวลาประมาณ 12.00 น. ตนและมารดาเดินทางไปซื้อของที่ห้างโลตัส สาขาเอกมัย-รามอินทรา โดยใช้รถเข็นสำหรับใส่ของคนละคันกันกับมารดา เนื่องจากต้องซื้อของจำนวนมาก ซึ่งตนและมารดาได้วางกระเป๋าสะพายไว้ในรถเข็นด้วย จากนั้นก็เข็นรถมาที่แผนกผงซักฟอกโดยที่ระวังกระเป๋าอยู่ตลอด จากนั้นตนและมารดาก็ช่วยกันเลือกซื้อของและก้มลงไปหยิบสินค้า เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่ากระเป๋าของตนหายไป แต่กระเป๋าของมารดายังอยู่ทั้งที่รถเข็นอยู่ใกล้กัน ตนจึงรีบไปบอกกับพนักงานรักษาความปลอดภัยให้ช่วยติดตามคนร้ายแต่ก็ไม่พบ หลังจากเกิดเหตุประมาณ 10 นาทีก็มีพนักงานของห้างเดินมาบอกว่าพบกระเป๋าสะพายถูกทิ้งไว้ที่แผนกเสื้อผ้าสตรี ตนจึงรีบไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นกระเป๋าของตนจริงๆ แต่ทรัพย์สินที่อยู่ภายในหายไป ตนจึงติดต่อกับทางห้างเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด แต่กล้องมีลักษณะที่เก่ามากทำให้มองเห็นภาพไม่ชัดเจน จากนั้นตนจึงขอพบเจ้าหน้าที่ระดับสูงของห้างแต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ
นางสรัญญา กล่าวต่อว่า เงินสดที่หายไปเป็นเงินของบริษัทของตน ซึ่งตนเป็นผู้ดูแลเรื่องการเงิน วันที่เกิดเหตุกำลังจะนำเงินไปฝากที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุขาภิบาล 1 แต่ได้แวะซื้อของที่ห้างดังกล่าวก่อน ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุนี้ขึ้น เมื่อช่วงเช้าตนได้เดินทางไปขอพบผู้บริหารของห้างโลตัส สาขาใหญ่ แต่ก็ไม่มีใครลงมาพบ และให้ความช่วยเหลือถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเลย จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.30 น.ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาที่ห้างโลตัส เอกมัย-รามอินทรา เพื่อชี้จุดที่เกิดเหตุ ก่อนเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม
“ดิฉันไม่ไต้องการให้ทางห้างรับผิดชอบทรัพย์สินที่สูญหายไป เพียงแต่ต้องการให้ทางห้างช่วยดูแลให้ความร่วมมือในเรื่องของการให้ข้อมูลเพื่อติดตามจับกุมคนร้าย หลังจากเกิดเหตุยังไม่มีเจ้าหน้าที่ หรือผู้บริหารมาพูดคุยแสดงความรับผิดชอบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเลย อยากให้ทางห้างมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมากกว่านี้ และเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับลูกค้าก็น่าจะออกมาแสดงความรับผิดชอบบ้าง” นางสรัญญา กล่าว
ด้าน พ.ต.ต.ธรากร เลิศพรเจริญ สว.สส.สน.โชคชัย กล่าวว่า หลังจากที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ตนพร้อมด้วยผู้เสียหายได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยไปดูกล้องวงจรปิดบริเวณแผนกผงซักฟอก พบว่ากล้องวงจรปิดจุดดังกล่าวเสีย ส่วนบริเวณที่พบกระเป๋าเป็นแผนกขายชุดคลุมท้อง ซึ่งไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด เนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนตัวจะมีลูกค้ามาลองชุด ทำให้สามารถจับภาพคนร้ายได้เลย คาดว่าคนร้ายรายนี้น่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายพื้นที่โดยอาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายเผลอก็จะหยิบฉวยทรัพย์สินของผู้เสียหายแล้วหลบหนีไป เบื้องต้นจะต้องสอบปากคำผู้เสียหายและพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป