มือดีฉกกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง “เมย์ มาริสา” ดารานางแบบชื่อดัง กลางห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว หลังออกบูธขายเสื้อผ้า และเป็นกรรมการประกวดเดินแบบ
วันนี้ (7 ก.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น.น.ส.มาริษา หรือ เมย์ ฮอร์น อายุ 27 ปี ดารานางแบบสาวชื่อดัง อยู่บ้านเลขที่ 200/26 หมู่ 3 ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.เดินทางเข้าพบ ร.ต.ต.วิศิษฎ์ ศรียาภัย พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อแจ้งความว่า ถูกคนร้ายขโมยกระเป๋าถือยี่ห้อหลุยส์ วิตตอง สีดำ ของตนไป ภายในมีกระเป๋าสตางค์ ยี่ห้อหลุยส์ วิตตอง 1 ใบ มีเงินสดจำนวน 5,000 บาท กล้องถ่ายรูปยี่ห้อโซนี่ 1 ตัว โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ เอชทีซี (HTC) 2 เครื่อง บัตรเครดิต และเอกสารทางราชการ อีกหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท
น.ส.มาริษา กล่าวว่า เมื่อตอนเย็นของวันที่ 6 ก.ย.ได้เดินทางไปเปิดบูธร้านขายเสื้อผ้า ชื่อ มาริเจย์ ซึ่งอยู่ในโซนงานการประกวดโมเดลของนิตยสารเรย์ ชั้น 1 ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม.เมื่อไปถึงแล้ว จึงได้เข้าไปนั่งภายในร้าน จากนั้นก็ได้วางกระเป๋าดังกล่าวไว้ที่เก้าอี้ที่ตนนั่ง ระหว่างนั้นก็มีการเดินแบบของผู้เข้าประกวด สาวเรย์ จึงได้ลุกขึ้นยืนดูนางแบบ ระหว่างนั้นลูกจ้างที่ร้านเข้ามาถามว่ากระเป๋าถือหายไปไหน เมื่อหันมาดูก็พบว่ากระเป๋าหายไปจริงๆ
น.ส.มาริษา กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น ได้พยายามสอบถามคนที่อยู่ใกล้กับร้าน ทราบจากร้านไอศกรีมที่ตั้งอยู่ใกล้กับบูธ ว่า พนักงานของร้านดังกล่าวเห็นคนร้ายเป็นหญิงสาวเอื้อมมือเข้าไปหยิบกระเป๋าของตนแล้วหลบหนีไป จึงสอบถามถึงรูปพรรณคนร้าย แต่พนักงานคนดังกล่าวจำไม่ได้ เพราะช่วงนั้นคนพลุกพล่าน จากนั้นตนจึงไปขอดูกล้องวงจรปิดจากร้านไอศกรีม แต่ ไม่สามารถเปิดดูได้ เนื่องจากต้องนำไปเปิดที่สำนักงานใหญ่เท่านั้น จากนั้นตนจึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ที่จุดรับแจ้งย่อยภายในห้างดังกล่าว แต่จำทรัพย์สินได้ไม่ครบ เจ้าหน้าที่จึงนัดให้มาแจ้งความในวันนี้แทน
“หนูได้รับเชิญให้เป็นคณะกรรมการตัดสินในงานประกวดดังกล่าว แต่ก็มาเกิดเรื่องแบบนี้ ทำให้ก็รู้สึกไม่สบายใจ ที่สำคัญ อยากจะได้ เมมโมรี กล้องถ่ายรูป เมมโมรี และ ซิมการ์ด ของโทรศัพท์มือถือ และ เอกสารคืนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีผลงานอะไร มีแต่ละครซิตคอม ที่จบไปเรื่อง “บ้านวุ่นอุ่นไอรัก” ทางช่อง 3” ดารานางแบบสาว กล่าว
ด้าน ร.ต.ต.วิศิษฎ์ กล่าวว่า หลังรับแจ้งความแล้วจะเชิญพยานซึ่งเป็นพนักงานของร้านไอศกรีม ที่เห็นเหตุการณ์ มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในห้างสรรพสินค้าดังกล่าว และร้านไอศกรีมที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าน่าจะจับภาพที่คนร้ายไว้ได้
