ศดส.ตามรวบหนุ่มใหญ่ “จอมตุ๋ย” ผู้ต้องหาตามหมายจับ ก่อคดีลักพาตัว 2 เด็กชายวัย 12 ปี ไปเพื่อทำอนาจารและกักขังกว่า 1 เดือน ก่อนที่จะปล่อยตัว 2 เด็กน้อยกลับบ้าน จอมหื่นสารภาพรับผิดทำลงไปเพราะฝังใจที่เคยถูกล่อลวงไปข่มขื่นเมื่อตอนเด็ก แถมทำมาแล้วหลายครั้ง และเลือกเฉพาะเด็กหน้าตาดี ใช้อุบายเป็นสารวัตรนักเรียน
วันนี้ (5 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศดส.บช.น.) พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผกก.ศดส.บช.น. พ.ต.ท.จุมพล คณานุรักษ์ รอง ผกก.ศดส.บช.น. พ.ต.ต.สวัสดิ์ ภักดี สว.งานสืบสวนตรวจตราและควบคุม พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ศดส.บช.น.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายประทีป หรือแจ็ค โคตระภู อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 281/7 หมู่ที่ 1 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญารัชดาเลขที่ 1584/2551 ลงวันที่ 1 พ.ค.51 ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่ออนาจาร ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงของผู้ถูกข่มขืนใจจนต้องกระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ปกครองของ ด.ช.นก (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศดส.ว่าลูกชายตัวหายตัวไปจากย่านห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี พระราม 2 และต่อมาวันที่ 25 มิ.ย. ผู้ปกครองของ ด.ช.เป็ด (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ก็เข้าแจ้งว่าลูกชายของตัวเองหายตัวไปจากโรงเรียนย่านดินแดง ซึ่งผู้ปกครองของเด็กทั้งสองคนเกรงว่าลูกชายตัวเองจะถูกลักพาตัวไป หลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่จึงออกสืบสวนจนกระทั่งทราบว่าเด็กชายทั้งสองคนถูกนายประทีปล่อลวงและพาออกเดินทางไปตามจังหวัดต่างๆ เพื่อข่มขืนกระทำชำเรา
ทั้งนี้ จากการสืบประวัติของนายประทีปพบว่า เคยทำผิดในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งในหลายพื้นที่ จนกระทั่งถูกจับกุมและจำคุกในปี 2538 เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นเมื่อวันที่ 23 เม.ย.นายประทีป ได้ล่อลวง ด.ช.โน้ต (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ไปจากย่านหลักสี่เพื่อข่มขืนกระทำชำเราแล้วหลบหนีไป ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ได้ขออนุมัติหมายจับดังกล่าวไว้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายประทีปมักจะพักอาศัยอยู่ที่บริเวณสนามหลวง จึงเข้าจับกุมเอาไว้ได้เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ
จากการสอบสวนนายประทีป ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า เมื่อตนอายุ 13 ปี ตนเคยถูกล่อลวงไปข่มขืนมาแล้วเลยจำฝังใจ เมื่อโตมาก็เลยลองทำบ้าง เริ่มตั้งแต่อายุ 18 ปี ก็ลองหลอกเด็กไปข่มขืนมาแล้วหลายคน จนกระทั่งปี 2538 ตนถูกจับในกระทำอนาจารและพรากผู้เยาว์ ศาลตัดสินจำคุก 14 ปี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมาก็พ้นโทษออกมา จากนั้นก็เริ่มล่อลวงเด็กอีกครั้ง โดยจะเลือกเด็กผู้ชายเท่านั้นและจะเลือกจากหน้าตา หากคนไหนหน้าตาดีก็เข้าไปทำทีอ้างตัวว่าเป็นสารวัตรนักเรียน และแจ้งว่าเด็กคนดังกล่าว ทำผิดมาและกำลังถูกตำรวจตามจับกุมโดยตนเองจะพาเด็กไปหลบซ่อนตัว
โดยวันที่ 23 เม.ย. ตนเริ่มจากล่อลวง เด็กชายโน้ตไปข่มขืนและกักขังไว้ 1 วัน ก่อนจะปล่อยตัวไป จากนั้นวันที่ 27 เม.ย.ก็เข้าไปใช้วิธีเดิมหลอก ด.ช.นก จากห้างบิ๊กซีพระราม 2 ก่อนจะพาขึ้นรถไฟไปที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นก็ตระเวนไปจังหวัดต่างๆ เช่น จ.นครสวรรค์ และพาไปทำงานก่อสร้างที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี อยู่นานประมาณ 1 เดือนเศษ ก่อนจะพากลับเข้ามา กทม.อีกครั้ง
จนกระทั่งวันที่ 25 มิ.ย.ก็พบ ด.ช.เป็ด ที่บริเวณปากซอยแม่เนี้ยว ย่านดินแดง จึงใช้อุบายแบบเดิม เข้าไปหลอกแล้วพาเด็กทั้งสองคนไป อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นก็พาไปทำงานสวนส้มที่ จ.ชุมพร แล้ว ไปทำงานที่ร้านไข่มุกซีฟู้ดอยู่ประมาณ 1 เดือนเศษ แล้วพาไปที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นก็พาเด็กทั้งสองคนกลับเข้า กทม. จนกระทั่งวันที่ 27 ส.ค.ก็ตัดสินใจปล่อย ด.ช.นก กลับบ้าน และวันที่ 30 ส.ค.ก็ปล่อย ด.ช.เป็ดกลับบ้าน เนื่องจากได้สัญญากับเด็กทั้งสองคนไว้ว่าจะปล่อยตัว จากนั้นก็หลับนอนอยู่ตามสนามหลวงมาตลอด ก่อนจะถูกตำรวจจับกุม
วันนี้ (5 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศดส.บช.น.) พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผกก.ศดส.บช.น. พ.ต.ท.จุมพล คณานุรักษ์ รอง ผกก.ศดส.บช.น. พ.ต.ต.สวัสดิ์ ภักดี สว.งานสืบสวนตรวจตราและควบคุม พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ศดส.บช.น.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายประทีป หรือแจ็ค โคตระภู อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 281/7 หมู่ที่ 1 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญารัชดาเลขที่ 1584/2551 ลงวันที่ 1 พ.ค.51 ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่ออนาจาร ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงของผู้ถูกข่มขืนใจจนต้องกระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ปกครองของ ด.ช.นก (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศดส.ว่าลูกชายตัวหายตัวไปจากย่านห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี พระราม 2 และต่อมาวันที่ 25 มิ.ย. ผู้ปกครองของ ด.ช.เป็ด (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ก็เข้าแจ้งว่าลูกชายของตัวเองหายตัวไปจากโรงเรียนย่านดินแดง ซึ่งผู้ปกครองของเด็กทั้งสองคนเกรงว่าลูกชายตัวเองจะถูกลักพาตัวไป หลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่จึงออกสืบสวนจนกระทั่งทราบว่าเด็กชายทั้งสองคนถูกนายประทีปล่อลวงและพาออกเดินทางไปตามจังหวัดต่างๆ เพื่อข่มขืนกระทำชำเรา
ทั้งนี้ จากการสืบประวัติของนายประทีปพบว่า เคยทำผิดในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งในหลายพื้นที่ จนกระทั่งถูกจับกุมและจำคุกในปี 2538 เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นเมื่อวันที่ 23 เม.ย.นายประทีป ได้ล่อลวง ด.ช.โน้ต (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ไปจากย่านหลักสี่เพื่อข่มขืนกระทำชำเราแล้วหลบหนีไป ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ได้ขออนุมัติหมายจับดังกล่าวไว้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายประทีปมักจะพักอาศัยอยู่ที่บริเวณสนามหลวง จึงเข้าจับกุมเอาไว้ได้เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ
จากการสอบสวนนายประทีป ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า เมื่อตนอายุ 13 ปี ตนเคยถูกล่อลวงไปข่มขืนมาแล้วเลยจำฝังใจ เมื่อโตมาก็เลยลองทำบ้าง เริ่มตั้งแต่อายุ 18 ปี ก็ลองหลอกเด็กไปข่มขืนมาแล้วหลายคน จนกระทั่งปี 2538 ตนถูกจับในกระทำอนาจารและพรากผู้เยาว์ ศาลตัดสินจำคุก 14 ปี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมาก็พ้นโทษออกมา จากนั้นก็เริ่มล่อลวงเด็กอีกครั้ง โดยจะเลือกเด็กผู้ชายเท่านั้นและจะเลือกจากหน้าตา หากคนไหนหน้าตาดีก็เข้าไปทำทีอ้างตัวว่าเป็นสารวัตรนักเรียน และแจ้งว่าเด็กคนดังกล่าว ทำผิดมาและกำลังถูกตำรวจตามจับกุมโดยตนเองจะพาเด็กไปหลบซ่อนตัว
โดยวันที่ 23 เม.ย. ตนเริ่มจากล่อลวง เด็กชายโน้ตไปข่มขืนและกักขังไว้ 1 วัน ก่อนจะปล่อยตัวไป จากนั้นวันที่ 27 เม.ย.ก็เข้าไปใช้วิธีเดิมหลอก ด.ช.นก จากห้างบิ๊กซีพระราม 2 ก่อนจะพาขึ้นรถไฟไปที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นก็ตระเวนไปจังหวัดต่างๆ เช่น จ.นครสวรรค์ และพาไปทำงานก่อสร้างที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี อยู่นานประมาณ 1 เดือนเศษ ก่อนจะพากลับเข้ามา กทม.อีกครั้ง
จนกระทั่งวันที่ 25 มิ.ย.ก็พบ ด.ช.เป็ด ที่บริเวณปากซอยแม่เนี้ยว ย่านดินแดง จึงใช้อุบายแบบเดิม เข้าไปหลอกแล้วพาเด็กทั้งสองคนไป อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นก็พาไปทำงานสวนส้มที่ จ.ชุมพร แล้ว ไปทำงานที่ร้านไข่มุกซีฟู้ดอยู่ประมาณ 1 เดือนเศษ แล้วพาไปที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นก็พาเด็กทั้งสองคนกลับเข้า กทม. จนกระทั่งวันที่ 27 ส.ค.ก็ตัดสินใจปล่อย ด.ช.นก กลับบ้าน และวันที่ 30 ส.ค.ก็ปล่อย ด.ช.เป็ดกลับบ้าน เนื่องจากได้สัญญากับเด็กทั้งสองคนไว้ว่าจะปล่อยตัว จากนั้นก็หลับนอนอยู่ตามสนามหลวงมาตลอด ก่อนจะถูกตำรวจจับกุม
