พันธมิตรฯ ผนึกกำลังคุ้มครอง “เอเอสทีวี-ผู้จัดการ” พร้อมร่วมขับไล่ “รัฐบาลทรราช-สมัคร” ให้ลาออก หลังมีกระแสข่าวสั่งปิดสถานี แสดงจุดยืนเผยแพร่ข่าวสารให้ประชาชนต่อไป
วันนี้ (2 ก.ย.) ภายหลังที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในเขต กทม.จากเหตุตำรวจปล่อยให้ นปก.เคลื่อนไหวเข้าไปปะทะกับกลุ่มพันธมิตรฯที่สะพานมัฆวานฯ โดยวันนี้เมื่อเวลา 10.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ประมาณ 200 คนได้ทยอยเดินทางมาจากทำเนียบรัฐบาลเพื่อมาปักหลักชุมนุมที่บริเวณด้านหน้าของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ถนนพระอาทิตย์ เพื่อขับไล่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ให้ออกจากตำแหน่ง และเพื่อมาปิดล้อมสร้างพลังปกป้องสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ตามที่มีกระแสข่าวว่านายสมัครจะสั่งปิดสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีไม่ให้ออกอากาศ และเพื่อแสดงพลังและจุดยืนปกป้องให้เอเอสทีวีเดินหน้าเผยแพร่ข่าวสารให้แก่สาธารณชนต่อไป
อย่างไรก็ตาม บรรยายกาศที่บริเวณถนนพระอาทิตย์ขนาดนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ทั้งหมดได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ส่วนหนึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ฝั่งบ้านเจ้าพระยา และอีกกลุ่มหนึ่งอยู่ฝั่งบ้านพระอาทิตย์หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดมาชุมนุมอย่างสงบ อีกทั้งไม่มีแกนนำขึ้นปราศรัยโจมตีแต่อย่างใด ส่วนการจราจรบริเวณด้านถนนพระอาทิตย์ทั้ง 4 เลน สามารถวิ่งได้อย่างคล่องตัว
สำหรับบรรยายกาศภายในสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็ยังคงทำหน้าที่ตามปกติ แต่ได้ระงับการเสนอข่าวเที่ยงวัน โดยทางห้องส่งจะยิงสัญญาณออกอากาศสดบนเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาลแทน ซึ่งในส่วนที่มีคำระบุใน พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินที่ได้ประกาศไปแล้วนั้นว่า ห้ามสื่อสารมวลชนเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ความรุนแรงระหว่าง นปก.และพันธมิตรฯ เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เนื่องจากจะเป็นการชี้นำให้เกิดความแตกแยกมากขึ้นนั้น ทางสถานีเอเอสทีวีก็ไม่ได้นำภาพเดิมในเหตุการณ์การณ์ดังกล่าวมาเผยแพร่แต่อย่างใด
และต่อมาเมื่อเวลา 10.50 น. ยามรักษาความปลอดภัยของสถานีเอเอสทีวี ได้เปิดประตูให้กลุ่มพันธมิตรฯ ที่ใส่หมวกกันน็อกพร้อมผูกผ้ากู้แผ่นดินประมาณกว่า 100 คน ทยอยเดินเข้ามานั่งภายในเอเอสทีวีจนเต็มบริเวณด้านใน พร้อมแกนนำได้ประกาศให้กลุ่มพันธมิตรฯ ที่เดินทางมาที่เอเอสทีวีทยอยเดินเข้าสถานีด้านในเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและย้ำว่าถ้าจะมาให้กำลังใจก็ควรทำให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้การจราจรด้านหน้าเป็นไปอย่างคล่องตัวโดยพันธมิตรฯ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ขณะเดียวกัน ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ประชาชนได้ทยอยกันเดินทางมาสมทบกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปักหลักอยู่ภายในบริเวณทำเนียบรัฐบาลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว โดยไม่หวั่นต่อประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินที่นายสสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ประกาศเมื่อเช้าวันนี้