หนุ่มสามล้อหมดหนทางริเป็นโจร ใช้รถสามล้อเครื่องทำมาหากินวิ่งราวทรัพย์เหยื่อสาวตามป้ายรถเมล์ สารภาพรายได้คำสามล้อไม่พอใช้ ส่วนเงินที่ได้เอาไปจ่ายค่าเช่าบ้านและเลี้ยงดูลูกอีก 2 คน เผย ก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้วถึง 4 ครั้ง
วันนี้ (23 ส.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น.พ.ต.ต.อดิเรก วรมุสิก สว.สส.สน.บางกอกน้อย พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางกอกน้อย ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายทันญา หรือ เจี๊ยบ บุญรัตน์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 1 ต.กำแมด อ.กุดชุม จ.ยโสธร ผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ พร้อมของกลาง รถยนต์สามล้อสาธารณะ ทะเบียน สก 1058 กทม. โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สมอลทอล์ก 1 ชุด โดยจับกุมได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ภายใน ซ.ผู้ใหญ่ทวี ถนนพาณิชยการธนบุรี แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม.เมื่อเวลา 17.00 น.ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ผู้เสียหายรายหนึ่งบริเวณป้ายรถประจำทาง ตรงข้าม โรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย ถ.อิสรภาพ เขตบางกอกน้อย กทม.เมื่อช่วงเช้า
จากการสอบสวน นายทันญา ให้การรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพขับรถสามล้อสาธารณะมาประมาณ 5 ปี แต่ระยะหลังรายได้จากการขับสามล้อไม่พอใช้จ่าย ประกอบกับเมื่อไม่นานมานี้ตนถูกกระจกบาดขาบาดเจ็บ ทำให้ไม่สามารถขับรถได้จึงหันมาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ โดยก่อเหตุมาแล้ว 4 ครั้ง บริเวณ ซ.วัดโพธิ์, หน้าโรงพยาบาลธนบุรี, บริเวณถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน, หน้าวัดใหม่พิเรนทร์ และรายล่าสุดบริเวณฝั่งตรงข้ามโรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย
นายทันญา รับอีกว่า ในการก่อเหตุแต่ละครั้งจะใช้รถสามล้อเป็นยานพาหนะ เมื่อพบเหยื่อก็จะขับรถเข้าประชิด ก่อนจะกระชากกระเป๋า หรือทรัพย์สินต่างๆ ที่ฉวยได้แล้วรีบขับรถหนีไป ส่วนใหญ่จะเอาเงินสดไปใช้จ่ายเป็นค่าเช่าบ้าน ค่าเช่ารถ และเลี้ยงดูลูก 2 คน ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ เช่น โทรศัพท์มือถือก็เก็บเอาไว้ที่บ้านเช่า จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
พ.ต.ต.อดิเรก กล่าวว่า สำหรับการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 07.00 น.วันเดียวกัน ผู้ต้องหาได้เกิดเหตุวิ่งราวทรัพย์ น.ส.ปัทมา แซ่ลิ้ม อายุ 22 ปี บริเวณป้ายรถประจำทาง ฝั่งตรงข้าม โรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย โดยคนร้ายขับรถสามล้อเข้ามาเชี่ยวชน พร้อมกับกระชากกระเป๋าถือไป แต่ขณะนั้นผู้เสียหายได้ยื้อแย่งกระเป๋าคืน จนทำให้คนร้ายบังคับรถเสียหลักพลิกคว่ำ ระหว่างได้มีประชาชนที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วย รวมทั้งรถสามล้อที่ผ่านมาเห็น แต่เมื่อยกรถกลับขึ้นมาได้คนร้ายก็รีบขึ้นรถขับหลบหนีไป โชคดีที่พยานในเหตุการณ์จดจำทะเบียนรถไว้ได้จึงรีบเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางกอกน้อย
“เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบป้ายทะเบียนแล้ว พบว่า เป็นคนร้ายคนเดียวกับกันที่เจ้าหน้าที่ต้องการตัว และเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งในพื้นที่บางกอกน้อย แต่ผู้เสียหายไม่สามารถจดจำหมายเลขทะเบียนได้ เนื่องจากผู้ต้องหาพับแผ่นป้ายทะเบียนบริเวณเลขตัวสุดท้ายที่ติดท้ายรถเพื่อไม่ให้จดจำทะเบียนได้ แต่ครั้งนี้มีพยานหลายคนที่จำเลขทะเบียนได้จึงทำให้ทราบตัวผู้กระทำผิดและเข้าตรวจค้นห้องพักพบของกลางดังกล่าว” พ.ต.ต.อดิเรก กล่าว
พ.ต.ต.อดิเรก กล่าวต่อไปว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร ก่อนส่งตัวผู้ต้องหาดำเนินตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยากฝากเตือนประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้หญิง ให้ระมัดระวังการเดินทางในที่เปลี่ยวเพียงลำพัง เนื่องจากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้เลือกก่อเหตุเฉพาะผู้หญิงที่เดินคนเดียวในที่เปลี่ยว และไม่เลือกช่วงเวลาก่อเหตุ
วันนี้ (23 ส.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น.พ.ต.ต.อดิเรก วรมุสิก สว.สส.สน.บางกอกน้อย พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางกอกน้อย ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายทันญา หรือ เจี๊ยบ บุญรัตน์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 1 ต.กำแมด อ.กุดชุม จ.ยโสธร ผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ พร้อมของกลาง รถยนต์สามล้อสาธารณะ ทะเบียน สก 1058 กทม. โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สมอลทอล์ก 1 ชุด โดยจับกุมได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ภายใน ซ.ผู้ใหญ่ทวี ถนนพาณิชยการธนบุรี แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม.เมื่อเวลา 17.00 น.ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ผู้เสียหายรายหนึ่งบริเวณป้ายรถประจำทาง ตรงข้าม โรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย ถ.อิสรภาพ เขตบางกอกน้อย กทม.เมื่อช่วงเช้า
จากการสอบสวน นายทันญา ให้การรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพขับรถสามล้อสาธารณะมาประมาณ 5 ปี แต่ระยะหลังรายได้จากการขับสามล้อไม่พอใช้จ่าย ประกอบกับเมื่อไม่นานมานี้ตนถูกกระจกบาดขาบาดเจ็บ ทำให้ไม่สามารถขับรถได้จึงหันมาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ โดยก่อเหตุมาแล้ว 4 ครั้ง บริเวณ ซ.วัดโพธิ์, หน้าโรงพยาบาลธนบุรี, บริเวณถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน, หน้าวัดใหม่พิเรนทร์ และรายล่าสุดบริเวณฝั่งตรงข้ามโรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย
นายทันญา รับอีกว่า ในการก่อเหตุแต่ละครั้งจะใช้รถสามล้อเป็นยานพาหนะ เมื่อพบเหยื่อก็จะขับรถเข้าประชิด ก่อนจะกระชากกระเป๋า หรือทรัพย์สินต่างๆ ที่ฉวยได้แล้วรีบขับรถหนีไป ส่วนใหญ่จะเอาเงินสดไปใช้จ่ายเป็นค่าเช่าบ้าน ค่าเช่ารถ และเลี้ยงดูลูก 2 คน ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ เช่น โทรศัพท์มือถือก็เก็บเอาไว้ที่บ้านเช่า จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
พ.ต.ต.อดิเรก กล่าวว่า สำหรับการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 07.00 น.วันเดียวกัน ผู้ต้องหาได้เกิดเหตุวิ่งราวทรัพย์ น.ส.ปัทมา แซ่ลิ้ม อายุ 22 ปี บริเวณป้ายรถประจำทาง ฝั่งตรงข้าม โรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย โดยคนร้ายขับรถสามล้อเข้ามาเชี่ยวชน พร้อมกับกระชากกระเป๋าถือไป แต่ขณะนั้นผู้เสียหายได้ยื้อแย่งกระเป๋าคืน จนทำให้คนร้ายบังคับรถเสียหลักพลิกคว่ำ ระหว่างได้มีประชาชนที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วย รวมทั้งรถสามล้อที่ผ่านมาเห็น แต่เมื่อยกรถกลับขึ้นมาได้คนร้ายก็รีบขึ้นรถขับหลบหนีไป โชคดีที่พยานในเหตุการณ์จดจำทะเบียนรถไว้ได้จึงรีบเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางกอกน้อย
“เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบป้ายทะเบียนแล้ว พบว่า เป็นคนร้ายคนเดียวกับกันที่เจ้าหน้าที่ต้องการตัว และเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งในพื้นที่บางกอกน้อย แต่ผู้เสียหายไม่สามารถจดจำหมายเลขทะเบียนได้ เนื่องจากผู้ต้องหาพับแผ่นป้ายทะเบียนบริเวณเลขตัวสุดท้ายที่ติดท้ายรถเพื่อไม่ให้จดจำทะเบียนได้ แต่ครั้งนี้มีพยานหลายคนที่จำเลขทะเบียนได้จึงทำให้ทราบตัวผู้กระทำผิดและเข้าตรวจค้นห้องพักพบของกลางดังกล่าว” พ.ต.ต.อดิเรก กล่าว
พ.ต.ต.อดิเรก กล่าวต่อไปว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร ก่อนส่งตัวผู้ต้องหาดำเนินตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยากฝากเตือนประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้หญิง ให้ระมัดระวังการเดินทางในที่เปลี่ยวเพียงลำพัง เนื่องจากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้เลือกก่อเหตุเฉพาะผู้หญิงที่เดินคนเดียวในที่เปลี่ยว และไม่เลือกช่วงเวลาก่อเหตุ