รถเมล์ร่วมบริการฯ สาย 92 ซิ่งจนชนกันเองบนถนนวิภาวดีขาออก ทำผู้โดยสารเจ็บไป 11 คน แถมโชเฟอร์คันก่อเรื่อง อาศัยจังหวะชุลมุน เปลี่ยนเสื้อแล้ววิ่งขึ้นรถเมล์อีกคันหลบหนี แต่ไม่พ้นมือตำรวจ อ้างกลัวเลยหนี เพราะตั้งแต่ขับรถมาไม่เคยชนจนมีผู้โดยสารเจ็บเยอะขนาดนี้
เมื่อเวลา 19.00 น.วันนี้ (21 ส.ค.) พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ภาษยะวรรณ พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.วิภาวดี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทางชนกันที่บริเวณถนนวิภาวดีขาออก ฝั่งคู่ขนาน ด้านหน้าสำนักงานจัดหางานเขต 3 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงเดินทางไปตรวสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถโดยสารประจำทางร่วมบริการ สาย 92 วิ่งระหว่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-คลองตัน สีขาวคาดฟ้า หมายเลขทะเบียน 11-5745 กทม.หมายเลขข้างรถ 39-104 จอดอยู่ในสภาพ ด้านหน้าพังยุบ กระจกแตก ไฟหน้าด้านขวาแตก ถักไปด้านหน้าเล็กน้อยพบรถโดยสารประจำทางร่วมบริการสายเดียวกัน หมายเลขทะเบียน 12-7070 กทม.หมายเลขข้างรถ 39-111 จอดอยู่ในสภาพกันท้ายยุบ ไฟท้ายด้านซ้ายแตก ขณะเดียวกันก็พบผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บจำนวน 11 ราย เจ้าหน้าที่รีบนำส่งโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล
จากการสอบสวนนายสมนึก พิทักษ์ชัยวัฒนา อายุ 31 ปี คนขับรถโดยสารประจำทางสาย 92 คันที่ถูกชนท้าย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถรับผู้โดยสารจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมุ่งหน้าไปคลองตัน เมื่อถึงจุดเกิดเหตุก็จอดส่งผู้โดยสารที่ป้ายตามปากติ แต่ขณะที่จะเคลื่อนรถออก ก็ถูกรถเมล์สายเดียวกันชนท้ายรถตนจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบว่าโชเฟอร์รถประจำทางคันก่อเหตุกำลังหลบหนีโดยวิ่งขึ้นรถโดยสารประจำทางอีกคันหนึ่ง พร้อมทั้งสวมเสื้อสีแดงที่เตรียมมาทับเสื้อตัวที่ใส่อยู่ เจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าไปจับกุมไว้ได้ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวน สน.วิภาวดี ทราบชื่อต่อมาคือ นายมงคล ทองคำ อายุ 27 ปี โดยเบื้องต้นเจ้าตัวอ้างว่าขณะที่ขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุก็ถูกรถเมล์คู่กรณีปาดหน้า ทำให้เบรกไม่ทันเนื่องจากรถวิ่งมาด้วยความเร็วประมาณ 70 กม.ต่อชั่วโมง จนทำให้รถพุ่งชนท้ายรถคู่กรณี ส่วนที่หลบหนีก็เพราะกลัว เนื่องจากตั้งแต่ขับรถมายังไม่เคยขับรถชนจนทำให้มีผู้โดายสารเจ็บขนาดนี้
ด้าน พ.ต.ท.สืบศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจวัดระดับปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของนายมงคลก็ไม่พบว่ามีแอลกอฮอล์แต่อย่างใด แต่เจ้าตัวยังให้การค่อนข้างวกวน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะยังอยู่ในอาการหวาดกลัวอยู่ อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีต่อไป
