ตำรวจพหลโยธิน เร่งสอบปากคำพยานพร้อมขอเวลา 2 สัปดาห์หาหลักฐานเอาผิดแก๊ง จยย.ซิ่ง ขณะทนายความผู้ต้องสงสัย หาช่องยื่นนิติวิทยาศาสตร์ชันสูตรศพผู้ตายอีกครั้ง กรณีรอยแผลกดทับบริเวณลำคอ อาจเกิดจากสายรัดคางหมวกกันน็อก
วันนี้ (15 ส.ค.) พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช ผกก.สน.พหลโยธิน กล่าวถึงความคืบหน้าคดี ด.ต.สัมฤทธิ์ แต้มทอง อายุ 52 ปี ผบ.หมู่งานจราจร สน.วิภาวดี เสียชีวิตขณะเข้าจับแก๊งรถ จยย.ซิ่ง บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า เมื่อวันที่13 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างในการรวบรวมหลักฐานและสอบปากคำพยาน แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดของแนวทางการสอบสวน เนื่องจากเกรงว่า ผู้กระทำผิดอาจหาช่องทางเพื่อให้พ้นผิด
พ.ต.อ.อาคม กล่าวต่อว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนสอบปากคำไปแล้วประมาณ 20 ปาก ซึ่งยังต้องพิจารณาถึงความน่าเชื่อถืออีกครั้ง และไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดของการสอบพยานว่ามีพยานเห็นเหตุการณ์ช่วงที่ ด.ต.สัมฤทธิ์ ถูกทำร้ายหรือไม่ โดยทางตำรวจจะแถลงอีกครั้ง โดยขอเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อสำนวนให้ละเอียดรอบคอบมากที่สุด เพราะเกี่ยวเนื่องกับชีวิตและอิสรภาพของบุคคล
พ.ต.อ.อาคม กล่าวต่อว่า กรณีที่มีข่าวว่าทนายความของกลุ่มผู้ต้องสงสัยจะยื่นเรื่องต่อพนักงานสอบสวน เพื่อขอให้สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ ชันสูตรศพของ ด.ต.สัมฤทธิ์อีกครั้ง เนื่องจากผลการชันสูตรศพจากสถานบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า มีแผลถูกกดทับที่บริเวณลำคอของผู้เสียชีวิต ซึ่งทางทนายความมีความสงสัยว่า อาจเกิดจากสายรัดคางหมวกกันน็อก ก็เป็นสิทธิของทนายความที่จะดำเนินการ แต่คงต้องไปศึกษารายละเอียดว่า มีช่องทางใดตามกฎหมายที่จะยื่นเรื่องขอชันสูตรศพใหม่อีกครั้ง แต่คงไม่ต้องมายื่นขอต่อพนักงานสอบสวน