ดีเอสไอส่งสำนวนคดี ปรส.ให้อัยการหลังมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 7 ราย จากการขายสินทรัพย์โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้เอกชนไม่ต้องเสียภาษี
วันนี้ 11 ส.ค. เวลา 10.00 น. พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8 สำนักคดีการเงินการธนาคาร นำสำนวนคดีการขายสินทรัพย์โดยมิชอบของ กองทุนปฏิรูปสถาบันการเงิน (ปรส.) พร้อมกับ นายอมเรศ ศิลาอ่อน อดีตประธานคณะกรรมการ ปรส., นายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ อดีตเลขาธิการ ปรส.กับพวกรวม 7 ราย ไปพบพนักงานอัยการเพื่อให้พิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีความผิดเกี่ยวกับการขายสินทรัพย์ของ ปรส. ส่วนนายคาร์ลอส มานาแลค ผู้บริหารของบริษัท เลแมนบราเดอร์ โฮลดิ้งอิ้ง ไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามนัด จึงได้ขออนุมัติหมายจับไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
สำหรับคดีนี้ ดีเอสไอมีความเห็นสั่งฟ้องนายอมเรศ และนายวิชรัตน์ ร่วมกันละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อช่วยเหลือให้บริษัท เลแมนบราเดอร์ฯ ชนะการประมูลโดยไม่ต้องทำสัญญาประมูลสินเชื่อ จากนั้น ปรส.กลับไปทำสัญญาให้กับกองทุนรวมโกลบอลไทย พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งไม่ได้เป็นผู้เข้าประมูลตามกฎหมาย แต่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ได้รับการยกเว้นภาษี โดยกองทุนดังกล่าวเป็นของบริษัท เลแมนบราเดอร์ฯ คดีจึงมีพฤติการณ์ว่าการทำสัญญาซื้อขายดังกล่าวเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำเพื่อช่วยเหลือให้บริษัท เลแมนบราเดอร์ฯ ไม่ต้องมีภาระภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ นอกจากนี้ดีเอสไอ มีความเห็นสั่งฟ้องบริษัท เลแมนบราเดอร์ฯ กองทุนรวมโกลบอล ไทยพร็อพเพอร์ตี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมวรรณ จำกัด และบริษัท เลแมนบราเดอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีการร้องทุกข์ คณะกรรมการ ปรส.ซึ่งรวมไปถึง รมว.คลัง ในขณะนั้นในฐานะผู้กำกับดูแล ปรส.และกรรมการ ปรส.บางคนซึ่งยังมีสถานะเป็นข้าราชการ ดีเอสไอได้ส่งสำนวนไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
