แฉอุบัติเหตุรถเมล์เข้าไปเติมแก๊สเอ็นจีวี ระเบิดสนั่น ฉีกทำลายตัวถังรถ และรถคันอื่นที่จอดอยู่ใกล้เคียงเสียหายเฉียด 10 คัน แฉถังบรรจุแก๊สไม่ได้มาตรฐาน แรงระเบิดฉีกตัวถังรถเป็นชิ้นๆ ตัวถังแก๊สกลายเป็นจุณในพริบตา ขณะที่ขนส่งจังหวัดเร่งสอบหาสาเหตุด่วน
วันนี้ (8 ส.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. ร.ต.ท.เสกสรรค์ โคตรสิงห์ ร้อยเวร สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุปั๊มแก๊สระเบิดมีผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณสถานบริการก๊าซธรรมชาติ ริมถนนสุขุมวิท จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมือง นายกำธร ถาวรสถิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นายณันทพงษ์ เชิดชู ขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ รถมูลนิธิฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เป็นสถานบริการก๊าซธรรมชาติ จุดที่ 11 ซอยอุดมเดช ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบเป็นลานกว้าง มีปั๊มหัวจ่ายจำนวน 2 จุด สำหรับเติมแก๊สเอ็นจีวีให้กับรถเมล์ของบริษัท สันติมิตรขนส่ง จำกัด ส่วนรถเมล์คันที่เกิดเหตุเป็นรถเมล์สายปากน้ำ-ศรีเอี่ยม ทะเบียน 10-0830 ฉะเชิงเทรา บริเวณด้านใต้ของรถเมล์ พบมีการติดตั้งถังแก๊ส เอ็นจีวี จำนวน 4 ถัง และเกิดระเบิดขึ้น 1 ถัง แรงระเบิดทำให้เหล็กด้านข้างรถถูกฉีกออกมาทั้งสองข้างเป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งด้านบนที่เป็นเก้าอี้ผู้โดยสารก็ได้รับความเสียหายทั้งหมดเช่นกัน ส่วนผู้บาดเจ็บชื่อนายหล่า มาปะเด อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้ากะเช้าและเป็นผู้เติมแก๊สถูกนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านั้นแล้ว
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบรถเมล์สายปากน้ำ-ศรีเอี่ยม มี พ.ต.ท.สันติ ศศะภูริ เป็นผู้จดทะเบียนในนาม บริษัท สันติมิตรขนส่ง จำกัด เลขที่ 69 ม.6 ถ.ท้ายบ้าน ต.ท้ายบ้าน จ.สมุทรปราการ ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท ส่วนรถเมล์ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหาย รวม 4 คัน เป็นรถเมล์ของบริษัท สันติมิตรขนส่งฯ ทั้งหมด รถแท็กซี่สีเขียว-เหลือง ทะเบียน ทล.956 กรุงเทพฯ และทะเบียน บจ-131 กรุงเทพ ได้รับความเสียหายจำนวน 2 คัน รถยนต์ส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน 7ฬ-3589 ได้รับความเสียหาย 1 คัน รวม 7 คัน
พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า ถังแก๊สที่เกิดระเบิดในครั้งนี้เป็นถังแก๊สเอ็นจีวี ขนาด 130 กิโลกรัม พบชิ้นส่วนถังแก๊สฉีกขาดออกมาอยู่ด้านนอก แรงระเบิดส่งผลให้รถยนต์ที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหายทั้งหมด คาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นน่าจะเกิดจากความไม่ได้มาตรฐานของถังแก๊ส เพราะมีขนาดบาง แต่อย่างไรก็ตามจะต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบก่อน เพื่อหาสาเหตุการเกิดระเบิดในครั้งนี้ และจะทำการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงก่อนนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายกำธร ถาวรสถิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า รถเมล์คันที่เกิดระเบิดขึ้นนั้น ทราบว่ายังไม่ได้มีการจดทะเบียนเปลี่ยนจากเชื้อเพลิงน้ำมันมาเป็นแก๊ส ซึ่งทางนายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้สั่งให้ดำเนินการทุกเรื่องหากพบว่ามีการกระทำผิด เชื่อว่าเหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้ เกิดจากรถเมล์ที่ทำการติดตั้งถังแก๊สเอ็นจีวี ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานของอุปกรณ์ดังกล่าว ซึ่งโดยปกติแล้วรถทุกคันที่ทำการติดตั้งถังเชื้อเพลิงแก๊สจะต้องผ่านการรับรองและตรวจสอบจากขนส่งจังหวัดก่อน จึงจะสามารถเติมแก๊สได้
นอกจากนั้นยังตรวจสอบพบใบอนุญาตที่ใส่กรอบติดไว้ในสถานบริการแก๊ส ดังกล่าวระบุว่า เป็นใบอนุญาตมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตราย ออกโดยกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงานเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2547 ให้กับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ส่วนสถานที่เก็บวัตถุอันตรายชื่อ สถานบริการก๊าซธรรมชาติ (สถานีควบคุมก๊าซจุดที่ 11 สำโรง) ซ.อุดมเดช ถ.สุขุมวิท อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ชื่อวัตถุอันตรายที่ครอบครอง คือก๊าซธรรมชาติอัด ปริมาณครอบครองสูงสุด 10.8125 เมตริกตัน พื้นที่ในส่วนครอบครองสูงสุด 220 ตารางเมตร โดยใบอนุญาตระบุว่าอนุญาตให้ใช้ได้ถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2548
ผู้สื่อข่าวได้ตามไปสอบถามคนเจ็บที่โรงพยาบาลสำโรง ทราบชื่อว่า นายหล่า มาปะเด อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นผู้เติมแก๊สให้รถเมล์คันเกิดเหตุ อยู่บ้านเลขที่ 139ม.2 ต.โคกสว่าง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ได้รับบาดเจ็บขาขวาหัก และมีบาดแผลฉีกขาดบริเวณน่องที่ขาข้างขวา ได้เล่าถึงเหตุการณ์ให้ฟังว่า ช่วงเช้าได้มีรถเมล์สายปากน้ำ-ศรีเอี่ยม ทะเบียน 10-0830 ฉะเชิงเทรา ได้เข้ามาเติมแก๊ส โดยตนเติมให้ตามปกติ เมื่อเติมแก๊สเสร็จแล้ว ขณะนำหัวจ่ายแก๊สเก็บเข้าที่ จู่ๆก็เกิดเสียงตูมระเบิดขึ้นมาดังสนั่นบริเวณใต้ท้องรถเมล์ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งแพทย์ได้รับรักษาเข้าห้องผ่าตัดเป็นการด่วนแล้ว
นายณันทพงษ์ เชิดชู ขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า รถเมล์คันเกิดเหตุนั้น มิได้มีการตรวจสอบคุณภาพการติดตั้งจากขนส่งจังหวัด อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานวิศวกรรมและความปลอดภัย กรมการขนส่ง จะได้ส่งวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มาตรวจสอบถึงสาเหตุของการเกิดระเบิดในครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง
วันนี้ (8 ส.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. ร.ต.ท.เสกสรรค์ โคตรสิงห์ ร้อยเวร สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุปั๊มแก๊สระเบิดมีผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณสถานบริการก๊าซธรรมชาติ ริมถนนสุขุมวิท จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมือง นายกำธร ถาวรสถิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นายณันทพงษ์ เชิดชู ขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ รถมูลนิธิฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เป็นสถานบริการก๊าซธรรมชาติ จุดที่ 11 ซอยอุดมเดช ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบเป็นลานกว้าง มีปั๊มหัวจ่ายจำนวน 2 จุด สำหรับเติมแก๊สเอ็นจีวีให้กับรถเมล์ของบริษัท สันติมิตรขนส่ง จำกัด ส่วนรถเมล์คันที่เกิดเหตุเป็นรถเมล์สายปากน้ำ-ศรีเอี่ยม ทะเบียน 10-0830 ฉะเชิงเทรา บริเวณด้านใต้ของรถเมล์ พบมีการติดตั้งถังแก๊ส เอ็นจีวี จำนวน 4 ถัง และเกิดระเบิดขึ้น 1 ถัง แรงระเบิดทำให้เหล็กด้านข้างรถถูกฉีกออกมาทั้งสองข้างเป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งด้านบนที่เป็นเก้าอี้ผู้โดยสารก็ได้รับความเสียหายทั้งหมดเช่นกัน ส่วนผู้บาดเจ็บชื่อนายหล่า มาปะเด อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้ากะเช้าและเป็นผู้เติมแก๊สถูกนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านั้นแล้ว
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบรถเมล์สายปากน้ำ-ศรีเอี่ยม มี พ.ต.ท.สันติ ศศะภูริ เป็นผู้จดทะเบียนในนาม บริษัท สันติมิตรขนส่ง จำกัด เลขที่ 69 ม.6 ถ.ท้ายบ้าน ต.ท้ายบ้าน จ.สมุทรปราการ ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท ส่วนรถเมล์ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหาย รวม 4 คัน เป็นรถเมล์ของบริษัท สันติมิตรขนส่งฯ ทั้งหมด รถแท็กซี่สีเขียว-เหลือง ทะเบียน ทล.956 กรุงเทพฯ และทะเบียน บจ-131 กรุงเทพ ได้รับความเสียหายจำนวน 2 คัน รถยนต์ส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน 7ฬ-3589 ได้รับความเสียหาย 1 คัน รวม 7 คัน
พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า ถังแก๊สที่เกิดระเบิดในครั้งนี้เป็นถังแก๊สเอ็นจีวี ขนาด 130 กิโลกรัม พบชิ้นส่วนถังแก๊สฉีกขาดออกมาอยู่ด้านนอก แรงระเบิดส่งผลให้รถยนต์ที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหายทั้งหมด คาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นน่าจะเกิดจากความไม่ได้มาตรฐานของถังแก๊ส เพราะมีขนาดบาง แต่อย่างไรก็ตามจะต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบก่อน เพื่อหาสาเหตุการเกิดระเบิดในครั้งนี้ และจะทำการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงก่อนนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายกำธร ถาวรสถิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า รถเมล์คันที่เกิดระเบิดขึ้นนั้น ทราบว่ายังไม่ได้มีการจดทะเบียนเปลี่ยนจากเชื้อเพลิงน้ำมันมาเป็นแก๊ส ซึ่งทางนายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้สั่งให้ดำเนินการทุกเรื่องหากพบว่ามีการกระทำผิด เชื่อว่าเหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้ เกิดจากรถเมล์ที่ทำการติดตั้งถังแก๊สเอ็นจีวี ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานของอุปกรณ์ดังกล่าว ซึ่งโดยปกติแล้วรถทุกคันที่ทำการติดตั้งถังเชื้อเพลิงแก๊สจะต้องผ่านการรับรองและตรวจสอบจากขนส่งจังหวัดก่อน จึงจะสามารถเติมแก๊สได้
นอกจากนั้นยังตรวจสอบพบใบอนุญาตที่ใส่กรอบติดไว้ในสถานบริการแก๊ส ดังกล่าวระบุว่า เป็นใบอนุญาตมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตราย ออกโดยกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงานเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2547 ให้กับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ส่วนสถานที่เก็บวัตถุอันตรายชื่อ สถานบริการก๊าซธรรมชาติ (สถานีควบคุมก๊าซจุดที่ 11 สำโรง) ซ.อุดมเดช ถ.สุขุมวิท อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ชื่อวัตถุอันตรายที่ครอบครอง คือก๊าซธรรมชาติอัด ปริมาณครอบครองสูงสุด 10.8125 เมตริกตัน พื้นที่ในส่วนครอบครองสูงสุด 220 ตารางเมตร โดยใบอนุญาตระบุว่าอนุญาตให้ใช้ได้ถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2548
ผู้สื่อข่าวได้ตามไปสอบถามคนเจ็บที่โรงพยาบาลสำโรง ทราบชื่อว่า นายหล่า มาปะเด อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นผู้เติมแก๊สให้รถเมล์คันเกิดเหตุ อยู่บ้านเลขที่ 139ม.2 ต.โคกสว่าง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ได้รับบาดเจ็บขาขวาหัก และมีบาดแผลฉีกขาดบริเวณน่องที่ขาข้างขวา ได้เล่าถึงเหตุการณ์ให้ฟังว่า ช่วงเช้าได้มีรถเมล์สายปากน้ำ-ศรีเอี่ยม ทะเบียน 10-0830 ฉะเชิงเทรา ได้เข้ามาเติมแก๊ส โดยตนเติมให้ตามปกติ เมื่อเติมแก๊สเสร็จแล้ว ขณะนำหัวจ่ายแก๊สเก็บเข้าที่ จู่ๆก็เกิดเสียงตูมระเบิดขึ้นมาดังสนั่นบริเวณใต้ท้องรถเมล์ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งแพทย์ได้รับรักษาเข้าห้องผ่าตัดเป็นการด่วนแล้ว
นายณันทพงษ์ เชิดชู ขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า รถเมล์คันเกิดเหตุนั้น มิได้มีการตรวจสอบคุณภาพการติดตั้งจากขนส่งจังหวัด อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานวิศวกรรมและความปลอดภัย กรมการขนส่ง จะได้ส่งวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มาตรวจสอบถึงสาเหตุของการเกิดระเบิดในครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง