ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 2 ปี หนุ่มใหญ่อ้างเป็นที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ เรียกรับเงิน 1 แสน แลกกับการโยกย้ายข้าราชการไปอยู่ตำแหน่งใหม่
วันนี้ (7 ส.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีเรียกรับทรัพย์สินที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายธนนันท์ สุวรรณากาศ อายุ 57 ปี อาชีพนักธุรกิจ อยู่บ้านเลขที่ 67/67 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. เป็นจำเลยในความผิดฐานเรียกและรับทรัพย์สินเพื่อตนเองหรือผู้อื่นเป็นการตอบแทนในการจูงใจเจ้าพนักงานโดยทุจริตผิดกฎหมาย ฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 46 ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า
เมื่อระหว่างวันที่ 7-14 มี.ค. 46 จำเลยได้แอบอ้างเป็นที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ (ขณะนั้น) และได้บังอาจเรียกรับเงินจำนวน 1 แสนบาท จากนายนาวี มุสตาฟา ข้าราชการศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา กรมการศึกษานอกโรงเรียน เป็นการตอบแทนเพื่อจูงใจ รมว.ศึกษาธิการ และข้าราชการ เพื่อให้มีคำสั่งย้ายนายนาวีให้ไปรับราชการที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา จ.ยะลา หรือ จ.ปัตตานี แต่นายนาวีต่อรองเหลือ 35,000 บาท และเกรงว่าจะถูกหลอกจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมพร้อมเงินของกลาง เหตุเกิดภายในกระทรวงศึกษาธิการ แขวงและเขตดุสิต กทม. จำเลยให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่เคยรู้จักนายนาวี ผู้เสียหายมาก่อน คดีนี้ศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า หากจำเลยไม่เรียกรับเงินจากนายนาวีจริง นายนาวีก็คงไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจวางแผนจับกุม พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคง รับฟังโดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 143 พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องอาจนำมาซึ่งความเสียหายต่อหน่วยงานราชการ ทั้งจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้มาตลอด จึงไม่รอการลงโทษ แต่โทษที่ศาลชั้นต้นลงโทษมานั้นสูงเกินไป เห็นควรแก้ไขให้เหมาะสมแก่รูปคดี พิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 2 ปี