พ่อแม่ “จา พนม” ร้องกองปราบตามหาลูก หลังถูกชายฉกรรจ์อุ้มหายติดต่อไม่ได้!!

พ่อแม่ “จา พนม” พระเอกนักบู๊ชื่อดัง ร้องกองปราบฯ ช่วยตามสืบหาลูกชาย อ้างว่า “จา” ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์พาตัวขึ้นรถหายไปโดยไม่สามารถติดต่อได้อีก หลังออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับปัญหาการสร้างหนัง “องค์บาก ภาค 2” ผู้เป็นพ่อ เผยรู้สึกเป็นห่วงในความปลอดภัยของลูกชาย พร้อมขอ ตร.คุ้มครองถูกขู่ ด้านพี่เขยระบุทนายความกีดกันไม่ให้พบ แถมใช้คำหยาบข่มขู่

วันนี้ (29 ก.ค.) เมื่อเวลา 20.30 น.ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายทองดี ยีรัมย์ อายุ 63 ปี นางรินทร์ ยีรัมย์ อายุ 57 ปี และนายพิชัด โมหอม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 8 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ บิดา มารดาและพี่เขยของพระเอกนักบู๊ชื่อดัง “จา พนม ยีรัมย์” เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.บุญเลิศ กัลยาณมิตร พงส.(สบ.3) ฝป.10 บก.ป.เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามช่วยสืบสวนติดตามตัว “จา พนม” ซึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับหลังจากออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับปัญหาการสร้างภาพยนตร์ เรื่อง “องค์บาก ภาค 2” แต่เมื่อการแถลงข่าวเสร็จสิ้นก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์พาตัวขึ้นรถหายไปโดยไม่สามารถติดต่อได้อีก

นายทองดี ให้การว่า ตนกับภรรยาเดินทางมาจาก จ.สุรินทร์ เพื่อจะมาพบกับบุตรชายภายหลังจากที่ได้ออกมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่มีข่าวว่า “จา” หายตัวไป ตนก็ยังไม่ได้พบบุตรชายอีกเลย ซึ่งตนมีความรู้สึกเป็นห่วงบุตรชายอย่างมาก ยิ่งมาทราบว่าภายหลังบุตรชายไปออกรายการ “ไนน์เอ็นเตอร์เทน” ทางช่องโมเดิร์นไนน์ เสร็จสิ้นแล้วระหว่างทางขากลับมากลุ่มชายฉกรรจ์ประกบตัวและพาขึ้นรถหายไปยิ่งทำให้ตนรู้สึกเป็นห่วงในความปลอดภัยอย่างมาก

“ที่ผมมาพึ่งกองปราบฯ ก็เพราะมีความเป็นห่วงในความปลอดภัยของลูก ยิ่งช่วงนี้ลูกมีปัญหาหลายเรื่องอาจจะคิดมาก จึงอยากให้ตำรวจช่วยเร่งสืบสวนติดตามหาตัวลูกชายให้พบโดยเร็ว และก็อยากให้ตำรวจจัดกำลังมาให้ความคุ้มครองผมเพราะมีการข่มขู่กันด้วย” นายทองดี กล่าว

ขณะที่ นายพิชัด กล่าวว่า ตนซึ่งเป็นพี่เขยของจา มีหน้าที่ติดตามคอยดูแลจามาตลอด แต่หลังจากที่จาไปออกรายการทีวีแล้ว ทางทนายความที่จาได้ตั้งขึ้นมาใหม่ได้กีดกันไม่ยอมให้ตนพบกับจา และแม้จะพยายามโทรศัพท์ติดต่อก็ไม่สามารถติดต่อได้ มีเพียงทนายความรายนี้ซึ่งไม่พอใจตนและครอบครัวโดยกล่าวหาว่าตนไปเกาะดารานักบู๊ คอยแต่ขอเงินจากจามาเป็นใช้จ่าย นอกจากนี้ยังใช้คำพูดหยาบคาย ข่มขู่ไม่ให้ตนกับญาติไปพบกับจา และล่าสุดในวันเดียวกันนี้ยังท้าทายกันว่าหากมีปัญหามากก็ให้ไปเจอกันที่โรงพัก

ด้าน พ.ต.ท.บุญเลิศ กล่าวว่า ได้รับเรื่องโดยจะสอบปากคำญาติในฐานะผู้ให้ถ้อยคำ ซึ่งขณะนี้ทางญาติก็เพียงต้องการให้ตำรวจช่วยสืบสวนติดตามตัวจา ซึ่งหายตัวไปโดยยังไม่รู้สาเหตุว่าถูกลักพาตัวหรือถูกกักขังตัวไว้ที่ไหนหรือไม่ จึงยังไม่สามารถรับเป็นคดีอาญาได้ จากนั้นก็จะนำเรื่องเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการต่อไป