โชเฟอร์แท็กซี่ ริเป็นโจร ใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ผู้โดยสารได้เงินสด 2,500 บาท-โทร.มือถือ โจรแสบอาศัยจังหวะสาวเจ้าไม่รู้เส้นทางพาขับรถวนจนสับสน แม้พยายามขอซิมการ์ดคืนก็ไม่ยอม ก่อนไล่ลงรถกลางถนนมอเตอร์เวย์ ด้าน ตร.กำลังเร่งไล่ล่านำตัวมาดำเนินคดี
วันนี้ (29 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ สน.ประเวศ น.ส.อมาวสี พรหมบุญ อายุ 25 ปี ลูกจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จ.น่าน ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.สืบสกุล เข็มทอง พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.ประเวศ เพื่อแจ้งความว่าถูกโชเฟอร์รถแท็กซี่ชิงทรัพย์สินเงินสด 2,500 บาท และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ไปจากบริเวณข้างโรงแรมอเล็กซานเดอร์ เลขที่ 3303 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ
น.ส.อมาวสี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 06.45 น.ที่ผ่านมา ตนได้เรียกรถแท็กซี่สีส้ม หมายเลขทะเบียนที่ติดอยู่ในรถเป็นหมายเลข ทร-1274 กทม.ออกมาจากบ้านของแม่ที่อยู่ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อจะไปส่งที่โรงแรมอเล็กซานเดอร์ ย่านถนนรามคำแหง เนื่องจากทาง อบต.น่าน ได้จัดอบรมแผนการสอนและอบรมงบประมาณการศึกษาไว้ โดยวันนี้เป็นวันที่ 3 จากการเข้าอบรมทั้งหมด 6 วัน
น.ส.อมาวสี ให้การต่อว่า ระหว่างที่อยู่ในรถโชเฟอร์แท็กซี่ก็ไม่มีท่าทางผิดปกติ แต่ตอนหลังก็เริ่มเอะใจ เพราะโชเฟอร์ขับรถวนไปหลายแห่งมาก จนทำให้ตนเริ่มสับสน เพราะไม่ค่อยรู้จักทาง จนกระทั่งมาออกตรงซอยลาดพร้าว 101 และขับผ่านฝั่งตรงข้ามโรงแรมอเล็กซานเดอร์ ตนก็บอกว่าให้จอดตรงนี้ เพราะจะข้ามถนนไปเอง แต่โชเฟอร์อ้างว่าจะพาไปส่งที่หน้าโรงแรมเลย แต่พอมาถึงบริเวณข้างโรงแรม โชเฟอร์แท็กซี่ก็แสดงตัวเป็นคนร้าย โดยชักมีดออกมาขู่ตนให้ส่งเงินมาให้หมด ด้วยความกลัวตนจึงส่งกระเป๋าเงินให้ไปโดยในนั้นมีเงินสดอยู่ประมาณ 2,500 บาท และโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง
น.ส.อมาวสี ให้การต่อไปว่า เมื่อคนร้ายได้ทรัพย์สินตนไปก็ไม่ยอมปล่อยตนลงจากรถ โดยรีบออกรถไปจากหน้าโรงแรมทันที ซึ่งระหว่างทาง ตนก็พยายามได้ต่อรองขอโทรศัพท์คืน 1 เครื่อง คนร้ายก็บอกว่าจะคืนให้ ตนจึงพยายามต่อรองอีกครั้ง เพื่อขอซิมการ์ดคืนอย่างเดียว คนร้ายก็บอกเช่นเดิมว่าจะคืนให้แน่นอน จนกระทั่งคนร้ายขับรถมาถึงบริเวณถนนมอเตอร์เวย์ กม.9 บนสะพานข้ามแยกอ่อนนุช ก่อนถึงแยกอ่อนนุช แขวงและเขตประเวศ คนร้ายก็ไล่ตนลงจากรถแล้วรีบขับรถหนีไปทันที
หลังจากนั้นก็มีพลเมืองดีมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี จังหวะนั้นก็รีบขับรถตามไปแต่ไม่ทันแล้ว จึงย้อนกลับมาพาตนมาส่งที่ สน.ประเวศ เพื่อแจ้งความดังกล่าว ซึ่งจากการสอบถามพลเมืองดีก็ทราบว่า ป้ายทะเบียนที่รถคนร้ายติดท้ายรถนั้นเป็นหมายเลขทะเบียน ทร-6574 กทม.ซึ่งไม่ตรงกับที่ติดอยู่ในรถแต่อย่างใด จึงไม่ทราบว่าหมายเลขทะเบียนอันไหนเป็นของจริงกันแน่
หลังรับแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ออกติดตามคนร้ายรายนี้แล้ว โดยจะทำการตรวจสอบว่า หมายเลขทะเบียนทั้ง 2 หมายเลขนั้น หมายเลขใดเป็นของจริงกันแน่ นอกจากนี้จะทำการตรวจสอบไปทางอู่รถแท็กซี่ต้นสังกัดว่าโชเฟอร์ขับรถแท็กซี่กะดังกล่าวเป็นใคร จะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป